เกร็ก ฮันท์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของออสเตรเลียกล่าวว่า ขณะนี้ หน่วยงานกำกับดูแลทางการแพทย์ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลด้านสุขภาพและความปลอดภัยสำหรับการฉีดวัคซีนในเด็กอายุระหว่าง 5 ถึง 11 ปี ซึ่งน่าจะยังไม่สามารถตัดสินใจได้ในปีนี้ แต่คาดว่าจะน่าจะเริ่มต้นได้ในช่วงต้นเดือนมกราคมของปีหน้า โดยในช่วงเดือนนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (หรือ CDC) ได้แนะนำว่า ให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ บิออนเทค สำหรับกลุ่มอายุ 5 ถึง 11 ปี หลังจากได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (หรือ FDA) เรียบร้อยแล้ว
ด้านพล.ท.จอห์น ฟรูเวน ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจด้านโควิด-19 ของออสเตรเลีย ได้กล่าวกับหนังสือพิมพ์เดอะเอจว่า ออสเตรเลียได้จัดหาวัคซีนเตรียมให้เด็กไว้แล้วอย่างเพียงพอต่อการฉีด
ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ออสเตรเลียได้ทำการฉีดวัคซีนให้กลุ่มผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยฉีดไปแล้วอย่างน้อย 1 โดส 90 เปอร์เซ็นต์ และแบบครบโดส 83 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกลุ่มอายุ 12 ถึง 15 ปี ได้รับวัคซีนไปแล้ว 57.7 เปอร์เซ็นต์
อัตราฉีดวัคซีนของออสเตรเลียที่สูง เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ออสเตรเลียเปิดพรมแดนบางส่วนในเดือนนี้ แม้ว่าจะมีการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าอย่างต่อเนื่องในรัฐที่มีประชากรมากที่สุด อย่าง นิวเซาท์เวลส์และวิกตอเรีย จนต้องล็อคดาวน์เมืองใหญ่ของทั้ง 2 รัฐ อย่าง ซิดนีย์และเมลเบิร์น แต่ออสเตรเลียก็ยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเพียง 191,000 ราย และผู้เสียชีวิต 1,596 ราย ซึ่งต่ำกว่าเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ