นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับ “สำนักข่าว TOPNEWS” ประเทศไทยได้ประกาศเปิดประเทศ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.64 ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางโดยทางอากาศ ที่ จากกลุ่มประเทศความเสี่ยงต่ำ ล่าสุด 63 ประเทศ แลเได้รับวัคซีนครบโดส เข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัว ภายใต้ข้อกำหนดเงื่อนไขที่คำนึงถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุข เชื่อว่าในเดือนพ.ย.นี้ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาไม่ต่ำกว่า 1.8 แสนคน ตามที่มีบุกกิ้งเข้ามา และคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นในเดือนธันวาคม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวฯ คาดหวังว่า ทั้งปี 2564 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้ามาประมาณ 1 ล้านคน สร้างรายได้ราว 6 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปี 2565 ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติ ประมาณ 10-15 ล้านคน และ นักท่องเที่ยวชาวไทย ที่ 160 ล้านคน-ครั้ง
สำหรับคาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2565 ดังกล่าว ยังไม่รวมถึงนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งยังไม่เปิดให้เดินทางออกนอกประเทศ แต่คำนึงถึงนักท่องเทียวทางไกล คือยุโรป อเมริกา เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน และสิ่งสำคัญ หวังว่าการเปิดท่องเที่ยวจังหวัดที่มีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งมาเลเซีย ลาว กัมพูชา และเมียนมาร์ จะมีนักท่องเทียวเข้ามาประมาณ 5 ล้านคน จากสถิติในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวจาก 4 ประเทศนี้ราว 10 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 2 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม คาดว่าช่วงกลางปีหน้า จีนอาจเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกได้ เพราะจะมีการจัดแข่งขันเอเชียนเกมส์ ในเดือนกันยายน 2565
สำหรับ รายได้จากการท่องเที่ยว ปี 2565 คาดว่าประมาณ 1.0-1.3 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น จากนักท่องเที่ยวชาวไทย 8 แสนล้านบาท และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5-6 แสนล้านบาท
โดยสถิติในปี 2562 ไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยว รวม 3.01 ล้านล้านบาท มาจากนักท่องเที่ยวชาวไทย 1 ล้านล้านบาท และชาวต่างชาติ 2 ล้านล้านบาท
“ในปี 65 เราตั้งว่า 1.0-1.3 ล้านล้านบาท ก็หมายความว่า ขอให้มีการท่องเที่ยวเกิดขึ้นจากคนไทยสัก 8 แสนล้าน จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ สัก 5-6 แสนล้าน ก็จะเข้าไปสู่เป้าหมาย แต่ถ้าสมมติว่ามีการเปิดประเทศ แล้วมีนักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจในประเทศไทย ในช่วงเดือนมกราคม ถึงมีนาคม แล้วหลั่งไหลเข้ามากจริงๆ ก็ต้องอยู่ที่ฤดูด้วยเพราะขณะนี้เป็นฤดูหนาวของยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลี โดยปกติก็จะเดินทางหนีหนาวมาเที่ยวไทยอยู่แล้วในอดีต สิ่งเหล่านี้ประมาณการไว้ แต่สำคัญที่สุดคือ ต้องเปิด border ได้ หลัก 10 ล้านคนถึงจะเห็น ถ้าเปิด border ไม่ได้ ผมก็ไม่เชื่อว่าจะเกิน 5 ล้านคน” รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ในปี 2565 สิ่งที่จะสร้างรายได้ได้ดี อีกตัวหนึ่งคือ การเข้ามารักษาของนักท่องเที่ยวจากประเทศในอาเซียน ยุโรป อเมริกา รวมถึงตะวันออกกลาง ทั้งการมารักษาพยาบาล รีแพร์หรือเสริมสวย ตกแต่ง แปลงเพศ และรักษาฟัน ซึ่งไทยไม่เป็นรองใครในโลก
นอกจากนี้ “นวดแผนไทย” กำลังได้รับความนิยม โดยกรมการท่องเที่ยว ได้พัฒนาถึงชุมชน เพื่อดูเรื่องตำรับหรือของโบราณเพื่อนำมารื้อฟื้นใหม่ พร้อมสร้างห้องพักรองรับนักท่องเที่ยว ทำในลักษณะคอร์สบำบัด ในอนาคตหากพ.ร.บ.กัญชา ผ่าน คงนำเรื่องกัญชา มาเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาแบบแพทย์แผนไทยด้วย