นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการหารือร่วมกันระหว่างภาคเอกชนกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เมื่อวานนี้(10 พ.ค.) ว่า เป็นการหารือถึงมาตรการในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเกี่ยวกับการเพิ่มสภาพคล่องในการทำธุรกิจให้ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน รวมถึงข้อเสนอให้ธปท. ลดหย่อนกฎระเบียบการเข้าถึงเเหล่งเงินทุน เพื่อให้การทำธุรกิจสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ ทั้งในส่วนของการผลิต อาทิ ค่าวัตถุดิบ ค่าจ้างแรงงาน
ทั้งนี้ ยอมรับว่า จากภาพรวมเศรษฐกิจโลก ที่มีความผันผวนและคลุมเครือ จึงต้องมีการแก้ไขทบทวนกฎระเบียบใหม่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและความคล่องตัวในการทำธุรกิจ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตโควิดไปได้
นายสนั่น ยังกล่าวถึงมาตรการเยียวยาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้เงิน 1 แสนล้านบาท และโครงการต่างๆ ในไตรมาสที่ 3 อีกกว่า 2 แสนล้าน ว่า เห็นด้วยกับมาตรการต่างๆที่รัฐบาลนำออกมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แต่อาจจะล่าช้าเกินไป โดยเฉพาะไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ที่คาดว่าเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดมากที่สุด
ดังนั้น มองว่า ในส่วนของมาตรการควรเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ซี่งอาจจะนำเอาเม็ดเงินจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 อย่างโครงการคนละครึ่งมาใช้ในไตรมาสที่ 2 แทน เนื่องจากในไตรมาส 3 เชื่อว่า สถานการณ์โควิดจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น จากการที่รัฐบาลนำเข้าและกระจายการฉีดวัคซีนไปยังพื้นที่ต่างๆ เพิ่มขึ้น
ด้าน นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า ต้องการให้รัฐบาลเพิ่มเม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2 ให้เร็ว อีก 2 แสนล้านบาท เพราะเม็ดเงินที่ใช้ 1 แสนล้านบาท ยังไม่สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากนัก โดยการที่เศรษฐกิจจะเติบโต 3-4% ต้องอยู่ภายใต้ปัจจัยสถานการณ์การระบาดของโควิดไม่รุนแรง และไตรมาส 3 ก็เพิ่มเม็ดเงินเข้าไป
ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการคนละครึ่ง มองว่า ยังเป็นโครงการที่ช่วยกระตุ้นรายได้และเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ดี เพราะช่วยลดการใช้จ่ายให้ประชาชนถึง 50% ส่วนมาตรการยิ่งใช้ยิ่งได้ แจก e-Voucher 5,000-7,000 บาทต่อวัน มองว่า ยังไม่จูงใจเท่าที่ควร รัฐบาลควรดูมาตรการอื่น อาทิ ช็อปดีมีคืน เพื่อให้ประชาชนบางส่วนได้นำเงินออมออกมาใช้ ซึ่งจะเป็นไปตามข้อเสนอแนะของรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ที่มีมาก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ผลกระทบดังกล่าวจะไม่ทำให้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากรัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงมีการการเร่งฉีดวัคซีน