วันนี้ (8 พ.ย.64) นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน และ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสนับสนุนเงินทุนสำหรับ SMEs ภายใต้ “โครงการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน” ระหว่าง ธนาคารออมสิน หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนด้านสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประมาณ 1 แสนราย
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากความร่วมมือ “โครงการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน” ธนาคารออมสิน ได้ให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 แก่สมาชิกของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ด้วยกัน 2 โครงการ โครงการละ 1 หมื่นล้านบาท รวม 2 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย
– สินเชื่อ GSB Smooth BIZ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือลงทุนในสินทรัพย์ถาวร อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก 2.99% ต่อปี ระยะเวลากู้สูงสุด 10 ปี โดยวงเงินกู้ต่ำสุดที่ 3 แสนบาท สูงสุด 20 ล้านบาท
– สินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน สำหรับธุรกิจ Small SMEs เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการ หรือนำไปไถ่ถอนสัญญาขายฝาก ให้กู้โดยพิจารณาจากที่ดินซึ่งเป็นหลักประกัน วงเงินกู้สูงสุดร้อยละ 70 ของราคาประเมินราชการ ไม่ตรวจเครดิตบูโร อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.99% ตลอดสัญญา ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 7 ปี โดยปลอดชำระเงินต้น 2 ปี ทั้งนี้คาดว่าจะเปิดให้ ผู้ประกอบการ SMEs ยื่นของสินเชื่อได้ภายใน 1-2 วันนี้
นอกจากนี้ สมาชิกหอการค้าฯ ยังสามารถเลือกใช้บริการสินเชื่ออื่น ตามมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ได้ตามความประสงค์ อาทิ สินเชื่อ Soft Loan สำหรับ SMEs ท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง / สินเชื่อ Soft Loan ธปท. เพื่อฟื้นฟูกิจการ เป็นต้น
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาธนาคารออมสินได้ร่วมกับหอการค้าฯ ในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ผ่านโครงการต่างๆ ของธนาคารออมสิน และสินเชื่อสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์และขยายเวลามาตรการสินเชื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ทั่วถึงมากขึ้น โดยความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นการขยายขอบข่ายความร่วมมือไปยังเครือข่ายหอการค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นการทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสถาบันการเงิน และหน่วยงานต่าง ๆ ตามแนวทาง connect the dots เชื่อมจุด เชื่อมโอกาส ให้กับผู้ประกอบการอย่างแท้จริง และช่วยส่งเสริมสนับสนุนในการพัฒนาผู้ประกอบการเปลี่ยนแปลงเพื่อพร้อมเติบโต และรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในปี 2565