รัฐบาลฮ่องกงให้ข้อมูลว่า กฎหมายเซ็นเซอร์ภาพยนตร์ฉบับใหม่นี้ จะมุ่งเป้าไปที่เนื้อหาที่ว่าด้วยการสนับสนุนกิจกรรมที่อาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ โดยกฎหมายดังกล่าวให้อำนาจแก่เลขาธิการของฮ่องกง ซึ่งเป็นบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดเป็นอันดับสองในการบริหารของเมือง สามารถเพิกถอนใบอนุญาตภาพยนตร์ได้ หากพบว่า ขัดต่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติ สำหรับบทลงโทษการละเมิดกฎหมายประกอบด้วย โทษจำคุกสูงสุด 3 ปีและปรับไม่เกิน 1 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (หรือราว 4 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ต่างแสดงความกังวลว่ากฎหมายฉบับใหม่จะส่งผลเสียต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ของฮ่องกง
เคนนี อึง รองศาสตราจารย์ของ Academy of Film แห่งมหาวิทยาลัย Hong Kong Baptist กล่าวว่า การเพิ่มมาตราด้านความมั่นคงแห่งชาติลงในร่างกฎหมายนับเป็นการเซ็นเซอร์ทางการเมืองที่ชัดเจน
ด้านผู้สร้างภาพยนตร์ กีวี่ เชา ซึ่งทำสารคดี “Revolution of Our Times” บันทึกเหตุการณ์การประท้วงในปี 2019 และถูกนำเสนอในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในปีนี้ กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวได้ทำร้ายอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในฮ่องกงด้วยการลดเสรีภาพในการสร้าง มันจะทำให้เกิดการเซ็นเซอร์ตัวเองและความระวังเพิ่มมากขึ้นในหมู่ผู้สร้างภาพยนตร์