No data was found

สุรินทร์ รวบแล้ว 5 นักโทษ อาศัยช่วงรอตรวจคัดกรองโควิด หลบหนี

กดติดตาม TOP NEWS

รวบแล้ว 5 นักโทษ คดียาเสพติด และคดีลักทรัพย์ อาศัยช่วงรอตรวจคัดกรองโควิดหลบหนี จากที่คุมขังชั่วคราวซึ่งเป็นจุดคัดตรวจคัดกรองโควิด-19 จนท.เร่งปูพรมค้นหา

จากกรณีเมื่อเวลา 01.45 น. วันนี้ (25 ต.ค.64) มีเหตุนักโทษ 5 คน หลบหนีออกจากที่คุมขังชั่วคราว โดยนักโทษทั้งหมดที่หนีออกไปเป็นนักโทษที่ถูกแยกออกมาไว้ในจุดคุมขังชั่วคราวที่อยู่เรือนจำโคกตาบัน สังกัดเรือนจำสุรินทร์ กรมราชทัณฑ์ เป็นห้องขังที่เคยเอาไว้ใช้คุมขังนักโทษชั้นดีที่รอวันใกล้ปล่อยตัว ช่วงโควิด-19 ระบาดเจ้าหน้าที่นำมาดัดแปลงใช้เป็นที่คุมขังชั่วคราว เป็นจุดที่คัดแยกการตรวจคัดกรองโควิด-19 สำหรับนักโทษที่ไม่พบเชื้อ และรอผลตรวจอาการนักโทษที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเป็นจุดคัดแยกชั่วคราว ปรากฏว่าระหว่างที่รอตรวจเชื้อและรอดูอาการ ก่อนส่งตัวกลับเข้าไปในเรือนจำ นักโทษทั้ง 5 คน ได้หลบหนีได้รอดรั้วลวดหนามแล้วหลบหนีไป

หลังเกิดเหตุทางเรือนจำสุรินทร์ ได้ประสานหลายหน่วยงาน ลงพื้นที่พร้อมนำกำลังตำรวจ 100 นาย เจ้าหน้าที่เรือนจำฯ 30 นาย, เจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.25 และฝ่ายปกครองพร้อม เจ้าหน้าที่ อส.เมืองสุรินทร์ 20 นาย ปิดล้อมและค้นหาอย่างละเอียดอีกครั้งในรัศมี 5 กม. ที่ป่าเรือนจำ ป่าใกล้เคียง และตามถนนสายเลี่ยงเมืองต่าง ๆ เพื่อติดตามตัวนักโทษดังกล่าว

กระทั่ง เวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จากเรือนจำกลางจังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.25 และผู้ใหญ่บ้านไทย ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถตามรวบตัวได้แล้วทั้ง 5 คน เป็นคดียาเสพติด และคดีลักทรัพย์ ประกอบ นายสมพงษ์ มั่นยืน, นายตั้ม มั่นยืน, นายอาทร สุขล้อม, นายเมธี มาลัย และนายธานี มาลัย ทั้งหมด 5 คนเป็นคนในพื้นที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดสุรินทร์ทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตามจับได้บริเวณระหว่างบ้านหลักวอ และบ้านโคกมะเมียน อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์

ทั้ง 5 คน หลบหนี โดยงัดห้องควบคุมตัวกักกันโรคและมุดรั้วลวดหนามและรั้วตาข่าย หลบหนีเข้าป่าด้านทิศตะวันออก ทางเรือนจำกลางสุรินทร์ และได้พากันหนีเข้าไปตามหมู่บ้าน ขณะรอเข้ารับการตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด ที่ศูนย์คัดกรองตรวจหาเชื้อ ของเรือนจำชั่วคราวโคกตะบัน เบื้องต้นได้นำตัวทั้ง 5 คนกลับเข้าควบคุมตัวภายในศูนย์คัดกรองตรวจหาเชื้อ ของเรือนจำชั่วคราวโคกตะบันแล้ว

จากเหตุการณ์ดังกล่าวจะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้น หากพบว่าเกิดจากความประมาทของเจ้าหน้าที่ จะมีการลงโทษอย่างถึงที่สุด

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จีนใช้ ‘หุ่นยนต์สุนัข’ ตรวจสายเคเบิลในพื้นที่แคบ
“บิ๊กต่อ” ตั้งทนายฟ้องกลับ “ทนายตั้ม” หมิ่นประมาท ปมแฉเอี่ยวส่วยเว็บพนัน เรียกค่าเสียหาย 5 ล้าน
สหรัฐ สามปธน. เดโมแครตระดมทุนครั้งใหญ่ช่วยไบเดน
สุดอั้น จ่อปรับขึ้น "ดีเซล" ราคาหน้าปั๊มทะลุ 30 บาท มีผล 1เม.ย.67
นิรโทษกรรมเหมาเข่ง ดีลับยืมมือ "แดง" พิฆาต "ส้ม" ไม่จริง เหตุ "ก้าวไกล" เน่าในอยู่แล้ว
"รถไฟฟ้าสีเหลือง" ผดส.ทยอยใช้บริการปกติ ชื่นชมพนง.ดูแลดีช่วงขัดข้อง ฝากตรวจสอบอย่าเกิดซ้ำ
ปะทะกันแล้ว ก็อดซิลล่า VS คิงคอง ที่สวนนงนุชพัทยา
ซัด "ก้าวไกล" ปมขึ้นค่าแรงจ้องหาเสียงตีกินการเมือง ชำแหละกึ๋นนโยบายใครทำคนตกงานระนาว
NBM แจงเทศกิจ ร้องวัสดุตกใส่รถยนต์ ยันไม่ใช่ชิ้นส่วน"รถไฟฟ้าสีชมพู"
"นายกฯ"เป็นประธานพิธีลงนาม "โครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ" เดินหน้าผลักดันกีฬาไทยสู่ระดับโลก ดูแลบุคลากรสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น