วันที่ 2 ธันวาคม 2568 ที่วัดทับคล้อ “สวนพระโพธิสัตว์” อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่จัดกิจกรรมเวทีพบปะสมาชิกพรรคเพื่อไทยพิจิตร โดยมี นายภูดิท อินสุวรรณ์ อดีต ส.ส.พิจิตร เขต 2 พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำที่เชิญชวนสมาชิกพรรคเพื่อไทยพิจิตรเขต 2 จาก อ.สากเหล็ก อ.วังทรายพูน อ.ทับคล้อ อ.ตะพานหิน อ.ดงเจริญ รวมแล้วกว่า 700 คน ที่มาร่วมพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในเวทีนี้

ซึ่ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้กล่าวชี้แจงถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงกล่าวว่า ขอให้พรรคเพื่อไทยได้สานต่อเพื่อสร้างโอกาสให้กับคนไทยทุกคน อีกทั้งยังกล่าวเพิ่มเติมว่าหลายสิ่งเริ่มต้นดีขึ้นให้เห็นในยุคที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลและเราขอทำต่อไปให้ถึงที่สุดบางเรื่องอาจต้องใช้เวลาแต่พรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นว่าเราสามารถสานต่อความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นกับคนไทยทุกคนในอนาคตได้อย่างแน่นอน โดยได้ชู 12 นโยบาย 3 เรื่อง ที่พร้อมสานต่อทันที นั่นคือเรื่องหวยเกษียณออมได้ลุ้นด้วยเพื่ออนาคตที่มั่นคง , 30 บาทรักษาทุกที่ , รถไฟฟ้า20บาทตลอดสาย

นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวผู้สมัคร สส.พิจิตร เขต 2 ซึ่งได้แก่ นายภูดิท อินสุวรรณ์, นายวิทยา มาลา ว่าที่ผู้สมัคร สส.พิจิตร เขต 3 พรรคเพื่อไทย
ซึ่งสรุปได้ว่าพิจิตรมีผู้สมัครพรรคเพื่อไทยครบแล้วทั้ง 3 เขต ใน 12 อำเภอ ของจังหวัดพิจิตร คือ นายพงษ์ศักดิ์ เหลืองวิจิตร ว่าที่ผู้สมัคร สส.พิจิตร เขต 1, นายภูดิท อินสุวรรณ์ ว่าที่ผู้สมัคร สส.พิจิตร เขต 2, นายวิทยา มาลา ว่าที่ผู้สมัคร สส.พิจิตร เขต 3

จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคฝ่ายค้านจะขอเปิดอภิปรายในสภา ว่า พรรคเพื่อไทยก็ดำเนินกิจกรรมตามรัฐธรรมนูญไปตามปกติ ซึ่งโดยส่วนตัว นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ไม่ได้ติดตามอะไรมากมายนัก แต่มีกฎหมายฉบับหนึ่งเรื่อง พ.ร.บ. อสม. ซึ่งตนเองเป็นประธานกรรมาธิการวิสามัญ อยากจะฝากสภาผู้แทนราษฎรทุกฝ่ายทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ให้ช่วยกันผ่านเรื่องดังกล่าวนี้ด้วยเพราะเป็นประโยชน์กับประชาชน
ส่วนคำถามที่ว่ามั่นใจแค่ไหนในสนามเลือกตั้งของพิจิตรทั้ง 3 เขต นายสมศักดิ์ ได้ตอบแบบมีชั้นเชิงว่าทุกอย่างขึ้นอยู่ที่พี่น้องประชาชนชาวพิจิตร แต่ก็มั่นใจว่าพิจิตร 3 เขต อย่างน้อยพรรคเพื่อไทยก็คงต้องได้บ้างล่ะ! เพราะว่าเรามีความตั้งใจมีนโยบายให้เป็นทางเลือกไม่ใช่ ใช้ปัจจัยอื่นๆ เป็นเครื่องมือในการหาเสียงเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นประเทศชาติจะเสียหาย ชาวพิจิตรจะเสียโอกาส ที่จะได้นักการเมืองดีๆมาพัฒนาบ้านเมืองของตน




