“บิ๊กโจ๊ก” โผล่กองปราบฯยันไม่หนี โดน “บิ๊กต่าย” ร้องเอาผิดคดีหมิ่นฯ ลั่นสัปดาห์หน้าเปิดข้อมูลใหญ่

"บิ๊กโจ๊ก" โผล่กองปราบฯยันไม่หนี โดน "บิ๊กต่าย" ร้องเอาผิดคดีหมิ่นฯ ลั่นสัปดาห์หน้าเปิดข้อมูลใหญ่

2 ธันวาคม 2568 – ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ เพื่อชี้แจงหลังมีผู้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ในความผิดฐานหมิ่นประมาทสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยยืนยันว่าเข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจและพร้อมสู้คดี ไม่เคยมีความคิดจะหลบหนี

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ทราบว่าพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง จตช. เข้าแจ้งความเอาผิด แต่ยืนยันว่ายังไม่มีหมายเรียก และยังไม่ได้รับการแจ้งข้อกล่าวหาแม้แต่ข้อหาเดียว การมาที่ บก.ป. จึงเป็นการมาปรากฏตัวอย่างเปิดเผย และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอน

เขาระบุว่า คดีนี้เป็นลักษณะ “แจ้งความเพื่อปิดปาก” เพราะเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยอ้างอิงข้อมูลจริงเพื่อประโยชน์สาธารณะ พร้อมย้ำถ้อยคำที่เป็นกระแสว่า “ตำรวจคือองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุด” โดยอ้างข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการมีเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งเกี่ยวพันกับส่วยเว็บพนัน

ข่าวที่น่าสนใจ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงคลิปเมื่อวันที่ 31 ต.ค.ว่า ไม่ได้พาดพิงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นการเฉพาะ แต่สะท้อนปัญหาเชิงระบบที่ประชาชนรับรู้กันมานาน พร้อมท้วงติง ผบ.ตร. ว่าควรตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบคอบก่อนฟ้องร้อง เพราะอาจย้อนกลับไปสู่ผู้กล่าวหาเอง พร้อมตั้งคำถามว่าทำไมไม่ไปแจ้งความ พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร ซึ่งวิจารณ์แรงกว่า โดยระบุว่า “ตำรวจไทยไม่ใช่องค์กรอาชญากรรมใหญ่ที่สุด แต่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยซ้ำ”

เขายังระบุว่า เหตุที่ถูกเล่นงานเพราะเป็น “ตัวจี๊ด” และ “รู้ข้อมูลมากที่สุด” พร้อมประกาศว่าภายในเร็ว ๆ นี้จะเปิดเผยข้อมูลทุกอย่างตามลำดับ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า หากมีหมายเรียกจะเดินทางมาทันที เพราะความผิดฐานนี้มีอัตราโทษไม่เกิน 3 ปี ไม่มีสิทธิควบคุมตัวหรือออกหมายจับ แต่ย้ำว่าต้องได้รับรู้ข้อกล่าวหาก่อนให้ปากคำ และได้ประสานผู้บังคับการกองปราบไว้แล้วว่าจะเข้าพบในวันใด

ส่วนกระแสที่มีตำรวจบางนายระบุว่าหาก ป.ป.ช. ชี้มูล ตนจะหลบหนี เขาย้ำว่า “คนที่จะหนีไม่ใช่ตน” พร้อมระบุว่าตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาแม้จะเงียบ แต่เป็นช่วงเก็บข้อมูลอย่างละเอียด “เหมือนนักมวยซ้อมทุกวัน วันนี้ถึงเวลาชกจริงแล้ว”

เขายืนยันว่ามีข้อมูลว่าพนักงานสอบสวนรายใดทำถูกหรือผิด และเตรียมรวมยอดเปิดข้อมูลครั้งใหญ่ภายในสัปดาห์หน้า

เมื่อถูกถามว่าการปรากฏตัววันนี้เหมือนเป็นการ “เหยียบถิ่น” ของฝ่ายที่เคยกล่าวหาว่าเขาจะหลบหนีหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า บุคคลเหล่านั้นเพียงตอบแทนบุญคุณผู้มีพระคุณของตนเอง เพราะได้รับ “ตั๋วช้าง” มาแล้ว พร้อมย้ำว่าการต่อสู้ทั้งหมดต้องยืนอยู่บนหลักกฎหมาย ส่วนความขัดแย้งเฉพาะตัวให้เป็นเรื่องหลัง

 

 

ต่อมาหลังเข้าพบพนักงานสอบสวน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า พนักงานสอบสวนสอบถามเบื้องต้นว่ามีความประสงค์จะให้ถ้อยคำ หรือเพียงลงบันทึกประจำวันเพื่อยืนยันว่าอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าต้องการพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบถามให้ชัดว่า สตช. แจ้งข้อหาใด

พนักงานสอบสวนชี้แจงว่า ข้อกล่าวหาที่แจ้งไว้มีเพียง “หมิ่นประมาท” เท่านั้น และไม่มีการดำเนินคดีกับสื่อมวลชนที่ร่วมสัมภาษณ์ในวันเกิดเหตุ โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมยืนยันว่าข้อมูลที่เคยแสดงความเห็นเป็นข้อเท็จจริงเพื่อให้สาธารณชนรับรู้ และเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบองค์กรตำรวจเอง

จากนั้นเตรียมเดินทางต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อทำภารกิจตามกำหนดการต่อไป.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 งานสัตว์น้ำไทย 2025 (Thai Aqua Expo 2025) โดยสมาคมกุ้งตะวันออกไทยและพันธมิตรภาครัฐ–เอกชน ภายใต้ธีม สัตว์น้ำไทย ปรับใหม่ เพื่อไปต่อ Refine Today, Sustain Tomorrow
"พิพัฒน์" สั่งตรวจสอบด่วน ผู้โดยสารโวยค่ารถไฟฟ้าตลอดสาย จ่ายจริงไม่ใช่ 40 บาท
นายก อบจ.นครสวรรค์ รับมอบเก้าอี้นวดไฟฟ้า พร้อมส่งต่อความห่วงใยถึงผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์คนชราบ้านเขาบ่อแก้ว
"ดีเอสไอ" เร่งสอบปมคดีห้องลับ VIP เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เดินหน้าสอบเส้นทางเงิน "อดีตผบ.มานพ"
วิกฤตขยะหาดใหญ่กองขยะภูเขาสูงท่วมแยกสะพานดำหลังน้ำท่วมใหญ่เร่งระดมรถแบคโฮเคลียร์พื้นที่ 24 ชม.
"บิ๊กโจ๊ก" โผล่กองปราบฯยันไม่หนี โดน "บิ๊กต่าย" ร้องเอาผิดคดีหมิ่นฯ ลั่นสัปดาห์หน้าเปิดข้อมูลใหญ่

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​