กต.เปิด 3 ตัวอย่าง “เขมร” ไม่จริงใจทำตามข้อตกลง ซัดสื่อกัมพูชาขาดจรรยาบรรณปั้นน้ำเป็นตัวกล่าวหาไทย

กต.เปิด 3 ตัวอย่าง “เขมร” ไม่จริงใจทำตามข้อตกลง ซัดสื่อกัมพูชาขาดจรรยาบรรณปั้นน้ำเป็นตัวกล่าวหาไทย

วันที่ 14 พ.ย. 2568 นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงความคืบหน้าสถานการณ์ล่าสุดชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กองบัญชาการทหารสูงสุดได้บรรยายสรุปเหตุการณ์ให้ผู้ช่วยทหารนานาชาติประจำประเทศไทยรับฟัง มีหลักฐานสำคัญให้เห็นชัดว่ากัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา และมีการชี้แจงไทม์ไลน์การปะทะของไทยและกัมพูชา โดยในการถามตอบสะท้อนให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายใช้อาวุธยิงเข้ามายังฝั่งไทยก่อน ส่งผลให้ฝ่ายไทยต้องหลบเข้าที่กำบังและยิงแจ้งเตือนเพื่อปกป้องอธิปไตยและป้องกันตนเอง ในการบรรยายสรุปครั้งนี้ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมบรรยายด้วยซึ่งสะท้อนถึงการทำงานที่เป็นเอกภาพ

อธิบดีกรมสารนิเทศ ยังกล่าวด้วยว่า การลงพื้นที่ศรีสะเกษและสระแก้วของผู้สังเกตการณ์อาเซียน ทั้งที่ห้วยตามาเรีย จ.ศรีสะเกษ และที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ขณะผู้สังเกตการณ์ได้เข้าตรวจสอบจุดที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน ที่ห้วยตามาเรีย และได้ดูชิ้นส่วนที่ระเบิดแล้วและทุ่นระเบิดใหม่จำนวน 3 ทุ่นที่ถูกวางใหม่อยู่ใกล้ๆกัน ขณะที่การลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ได้ตรวจบังเกอร์ของไทยที่ฝ่ายกัมพูชายิงเข้ามา ทั้งสองพื้นที่ เอโอทีได้รับฟังบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานโดยตรง
โดยยืนยันว่า กระทรวงการต่างประเทศยังคงเดินหน้าชี้แจงประชาคมระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่องให้ต่างประเทศได้รับทราบข้อเท็จจริง หลังกัมพูชาละเมิดถ้อยแถลงระหว่างไทยกับกัมพูชา ย้ำไม่มีเหตุผลที่ไทยจะไม่เคารพและไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง เพราะเป็นสิ่งที่ฝ่ายไทยพยายามผลักดันอย่างเข้มแข็งมาตลอด ในทางกลับกันฝ่ายกัมพูชาได้ลอบวางทุ่นระเบิดใหม่และสร้างสถานการณ์ยั่วยุโดยใช้อาวุธยิงเข้ามาในไทยก่อน ทั้งนี้ไทยยังคงเดินหน้าไม่ว่าจะเป็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปราบออนไลน์สแกมที่ส่งผลกระทบทั้งต่อไทยและนอกภูมิภาค ซึ่งประเทศไทยได้ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ และจะเฝ้าติดตามการปราบปรามเรื่องนี้จากกัมพูชาอย่างใกล้ชิด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

นายนิกรเดช กล่าวด้วยว่า การเผยแพร่ข้อมูลเท็จและบิดเบือนของฝ่ายกัมพูขา ที่ผ่านมาฝ่ายไทยเห็นตัวอย่างการปล่อยข่าวปลอมและบิดเบือนโดยไม่มีหลักฐานรองรับ 3 กรณีคือ

1. การกล่าวหาว่าไทยวางทุ่นระเบิดและเหยียบเอง จากการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นระเบิด PMN-2 ซึ่งฝ่ายไทยไม่มีระเบิดชนิดทุ่นระเบิด PMN-2 ในครอบครอง ไม่มีทั้งหลักฐานและความเป็นไปได้ในเชิงเหตุผล

2. การกล่าวอ้างว่าฝ่ายไทยเปิดฉากยิงไปยังกัมพูชาก่อนบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ทั้งที่ความเป็นจริงเป็นฝ่ายกัมพูชาที่เริ่มก่อน และมีหลักฐานรอยกระสุนที่บังเกอร์ของไทย รวมถึงวิถีกระสุน ทำให้คำกล่าวอ้างของกัมพูชา ไกลความจริงไปมาก ยังไม่รวมรายงานสถิติที่กัมพูชาอ้างว่ามีประชาชนได้รับบาดเจ็บจากหน่วยงานต่างๆของกัมพูชา ที่สับสน ไม่มีความสอดคล้องกัน

3.การนำภาพร่างผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาลกัมพูชาด้วยโรคประจำตัว ที่รพ.ในกรุงเทพฯ ไปอ้างว่าเป็นร่างของทหารกัมพูชาที่ถูกฝ่ายไทยควบคุมตัวไว้ ซึ่งในความเป็นจริงฝ่ายไทยได้ช่วยเหลือนำร่างของผู้เสียชีวิตกลับกัมพูชาตามหลักมนุษยธรรม

นายนิกรเดช กล่าวว่า การเผยแพร่ข้อมูลเท็จเหล่านี้สะท้อนถึงความไม่จริงใจของกัมพูชา และการขาดจรรยาบรรณของสื่อกัมพูชาอย่างชัดเจน ล่าสุดกรณีที่มีสำนักข่าวจากประเทศมาเลเซียรวมถึงสื่ออื่นที่นำข้อความของสื่อสำนักนี้ไปส่งต่อได้เผยแพร่ข่าวที่ผิดพลาดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดที่ทำให้ทหารไทยต้องพิการ กระทรวงต่างประเทศได้ประสานหน่วยความมั่นคงอย่างใกล้ชิดให้แก้ไขข่าวในทันที และจะดำเนินการตามเหมาะสมต่อไป เพราะแม้จะมีการแก้ไขข่าวแล้วแต่ก็มีการทำให้เกิดความเข้าใจผิดและผลกระทบในวงกว้าง ซึ่ง กต.ของไทยได้หยิบยกเรื่องนี้หารือกับ กต.มาเลเซียแล้ว

 

อธิบดีกรมสารนิเทศ ย้ำด้วยว่า ในห้วงที่สถานการณ์ไทย-กัมพูชามีความอ่อนไหวสูง ความถูกต้องของข้อมูลมีความสำคัญอย่างมากเพื่อไม่ให้เนื้อหาไปสนับสนุนเรื่องเล่าที่ไม่เป็นจริงและปราศจากการตรวจสอบที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพยายามผลักดัน จึงขอประชาชนบริโภคข่าวสารด้วยความระมัดระวังและรอบคอบก่อนส่งต่อ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศโดยตรง ทางทีมงานกรมสารนิเทศพร้อมให้คำตอบตลอด 24 ชั่วโมง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อบจ.เมืองคอนเดินหน้าก่อสร้างสนามกีฬากลาง อ.นบพิตำ งบกว่า 36 ล้าน
กต.เปิด 3 ตัวอย่าง “เขมร” ไม่จริงใจทำตามข้อตกลง ซัดสื่อกัมพูชาขาดจรรยาบรรณปั้นน้ำเป็นตัวกล่าวหาไทย
อีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ "จีน" ถวายพระเกียรติสูงสุด "ในหลวง" ถือเป็นครั้งแรกทหารกองเกียรติยศ บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี บนแผ่นดินใหญ่ เปล่งเสียงทรงพระเจริญกึกก้อง
รัฐบาลทรัมป์อนุมัติขายอาวุธมูลค่ากว่า 300 ล้านเหรียญให้ไต้หวัน
อรรถกร รมว.ท่องเที่ยวฯ เช็คความพร้อมสนามแข่งเรือใบซีเกมส์ 33 ก่อนศึกใหญ่ SSL47 ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมแข่งขัน
ดร.ฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาฯ หนุน พ.ร.บ.อากาศสะอาด เน้นดูแลชีวิตประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​