พลจัตวา ซัมซุล ริซาล มูซา ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียและ หัวหน้าคณะ AOT ไทย บอกว่า จะนำข้อมูลที่ได้รับวันนี้ ไปรายงานต่อ กระทรวงกลาโหม ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้เห็นรอยกระสุนจริง กระสุนดังกล่าวเป็นลูกกระสุนใหม่ แต่ขอยังไม่ระบุรายละเอียดของชนิดกระสุนว่า เป็นชนิดใด รวมถึงระยะแนววิถีกระสุน ซึ่งข้อมูลรายละเอียดทั้งหมด/ รอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานของไทยทํางานก่อน ถึงจะยืนยันเหตุการณ์ทั้งหมดได้ ส่วนวิถีกระสุน ที่ฝั่งกัมพูชายิงเข้ามาหวังสังหารทหารไทยหรือไม่ พลจัตวา ซัมซุล ไม่แสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้

จุดต่อมาคณะ AOT ลงพื้นที่ศาลาประชาคมประจำหมู่บ้านหนองหญ้าแก้วเพื่อพูดคุยถึงผลกระทบที่ชาวบ้านได้รับ มีนางสมพร เพ็ชรจิตร ผู้ใหญ่บ้านหนองหญ้าแก้ว และตัวแทนชาวบ้านเป็นตัวแทนมาสื่อสารกับคณะ AOT

ผู้ใหญ่สมพร ได้เล่าเหตุการณ์ ในวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เวลา 16.00 น. ให้พลจัตวาซัมซุล ฟัง ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่ทุกคนค่อนข้างตกใจกลัว ซึ่งทุกคนอพยพไปอยู่จุดปลอดภัยประมาณ 1 คืน ก่อนกลับเข้ามาอาศัยบ้านพักของตัวเองตามปกติ

จากนั้น พลจัตวา ซัมซุล ได้ตอบกลับชาวบ้านว่าตนมาที่นี่ เพื่อมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อรักษาความปลอดภัยและความสุขเสถียรภาพระหว่างทั้งสองประเทศ

จากนั้นป้าวราภรณ์ หนึ่งในชาวบ้านหนองหญ้าแก้ว ได้ยกมือไหว้พร้อมบอกว่า ขอความยุติธรรมให้กับคนไทยด้วยนะคะ คนไทยเป็นคนที่มีคุณธรรม ทหารของเราไม่ยิงชาวบ้าน

ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม พลจัตวา ซัมซุล กรณีที่สื่อมาเลเซีย รายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศมาเลเซีย ได้รับรายงานจากคณะผู้สังเกตการณ์ AOT จากทั้งสองฝ่าย ระบุว่า “ ไม่ใช่ระเบิดใหม่” พลจัตวา ซัมซุล ยืนยันว่า ไม่ได้รายงานว่า ระเบิดที่ห้วยตามาเรีย จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดเก่า คาดว่าเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อนจากสื่อสาร ภาษาไทย และภาษามาเลเซีย เมื่อถามย้ำว่า คอนเฟิร์มว่าเป็นระเบิดใหม่ใช่หรือไม่ พลจัตวา ซัมซุล ย้ำว่า ไม่ได้พูดว่า เป็นระเบิดเก่า

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กรณีเหตุระเบิดที่ห้วยตามาเรีย จังหวัดศรีสะเกษ ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บขาขาด จะเดินทางไปสังเกตการณ์หรือไม่ พลจัตวาซัมซุล กล่าวสั้น ๆ ว่าต้องรอให้กองทัพไทยเชิญตนเองไปสังเกตการณ์ ซึ่งตนเองก็พร้อมไปสังเกตการณ์ทุกเมื่อ ขอให้เชิญมา