No data was found

รวบสมาชิกแก๊ง ปลอมเว็บไซต์ธนาคารลวงกดลิงก์ หลอกดูดเงินออนไลน์

กดติดตาม TOP NEWS

ตำรวจสอบสวนกลาง โดย ปอศ. รวบสมาชิกแก๊ง Phishing ปลอมเว็บไซต์ธนาคารลวงกดลิงก์ หลอกดูดเงินออนไลน์ เสียหายหลายแสนบาทหนีมา 15 ปีอีก 1 วันจะพ้นคดีโดนรวบเสียก่อน

วันที่ 22 ตค.64 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.พัฒนา ฉายาวัฒน์ รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก. 5 บก.ปอศ.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.จรัส แก้วสง่า สว.กก. 5 บก.ปอศ.,

ร่วมกันจับกุม นายทอมฯ (นามสมมุติ) อายุ 63 ปี สัญชาติอเมริกัน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 531/2564 ลง 18 ตุลาคม 2564 ในความผิดฐาน “ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน, ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดย มิชอบ ซึ่งเป็นบัตรที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้าค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด”

หลังหลบหนีมานานเกือบ 15 ปี เหลือเพียง 1 วัน จะครบอายุความ

สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2550 นายสมชายฯ ผู้รับมอบอำนาจจากทางธนาคารชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายธนาธิป (สงวนนามสกุล) และนางธัญรัศม์ (สงวนนามสกุล) ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม, ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน, ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ของผู้อื่นโดยมิชอบซึ่งเป็นบัตรที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้าค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด”

ซึ่งต่อมากองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้รับคำร้องทุกข์ไว้และทำการสอบสวน จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองไว้ได้ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลจนทราบตัวผู้ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติมคือ นายทอมฯ ผู้ต้องหารายนี้

โดยจากการสืบสวนสอบสวนขยายผลทราบว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุเมื่อประมาณปลายเดือนตุลาคม 2549 มีคนร้ายปลอมแปลงเว็บไซต์ที่มีลักษณะคล้ายเว็บไซต์ของธนาคารชื่อดังแห่งหนึ่ง และส่งข้อความไปยังเป้าหมายที่เป็นลูกค้าของธนาคารที่มีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบ E-Banking อ้างว่าเว็บไซต์ของธนาคารได้ทำการปรับปรุงและให้คลิกเข้าไปที่เว็บไซต์ปลอม หากลูกค้าหลงเชื่อทำรายการเข้าไปในเว็บไซต์ดังกล่าวก็จะไม่สามารถทำรายการต่อไปได้ เนื่องจากเป็นเพียงระบบที่ทำมาเพื่อเก็บข้อมูลจากผู้หลงเชื่อและกรอกข้อมูลลงไปเท่านั้น จากกรณีดังกล่าวปรากฏว่ามีผู้เสียหายเป็นลูกค้ารายหนึ่งของธนาคาร ถูกคนร้ายหลอกลวงเข้าไปทำรายการในเว็บไซต์ปลอม จนถูกกลุ่มผู้ต้องหาเก็บข้อมูลชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านสำหรับเข้าระบบธุรกรรมทางการเงินไว้ จากนั้นได้นำข้อมูลของผู้เสียหายไปทำการโอนเงินจากบัญชีผ่านทางระบบ E-Banking ด้วยการโอนเงินออกไปยังบัญชีต่างๆ จำนวนหลายบัญชี โดยบัญชีรับเงินที่โอนออกไปนั้น มีนายธนาธิปฯ เป็นผู้ที่ติดต่อว่าจ้างบุคคลอื่นมาเปิดบัญชีดังกล่าว มีการให้ค่าตอบแทนประมาณ 4,000-5,000 บาทต่อบัญชี ต่อมาเมื่อมีการจับกุมตัวนายธนาธิปฯ ได้

นายธนาธิปฯ ให้การเพิ่มเติมว่าตนเองถูกนายทอมฯ หลอกลวงให้ช่วยหาคนมาเปิดบัญชีเงินฝาก โดยอ้างว่าจะนำไปใช้เพื่อรับเงินที่ได้จากการเล่นหุ้นจากต่างประเทศแล้วจะให้ค่าตอบแทนแก่นายธนาธิปฯ ทำให้นายธนาธิปฯ หลงเชื่อไปติดต่อหาคนมาเปิดบัญชีรับเงินดังกล่าว

โดยนายทอมฯ ได้มอบบัตรเอทีเอ็มให้นายธนาธิปฯ จำนวน 1 ใบ เป็นการตอบแทน ซึ่งเป็นบัญชีที่มีเงินอยู่จำนวน 100,000 บาท โดยนายทอมฯ อ้างว่าเป็นเงินของตนเอง

ต่อมา พนักงานสอบสวน ได้ยื่นคำร้องขอออกหมายจับนายทอมฯ ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 531/2564 ลง 18 ตุลาคม 2564 ในความผิดฐาน “ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน, ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดย มิชอบ ซึ่งเป็นบัตรที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้าค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด”

ซึ่งต่อมานายทอมฯ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวดำเนินคดีแล้ว แต่หลังจากนั้นได้ยื่นประกันตัวและหลบหนีไม่มาพบพนักงานอัยการตามนัด โดยได้หลบหนีกบดานอยู่ในประเทศไทยเป็นระยะเวลาเกือบ 15 ปี ซึ่งจะครบกำหนดอายุความในวันที่ 22 ตุลาคม 2564

จนกระทั่งวันที่ 21 ตุลาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. สืบสวนทราบว่า นายทอมฯ หลบหนีมากบดานอยู่ในเขต อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเดินทางไปตรวจสอบ จนกระทั่งมาพบนายทอมฯ อยู่ที่บริเวณโรงแรมแห่งหนึ่งใน ซอยหัวหิน 88/1 ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่จึงได้จับตัวนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก. 5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เจาะใจครูไทย ขอบคุณรัฐบาล อนุมัติงบฯจ้างภารโรง แบ่งเบาภาระคืนความสุขโรงเรียน
ชาวบ้าน 16 ครัวเรือนขวางเจ้าอาวาสวัด สั่งถมดินสูงรอบบ้านชาวบ้าน อ้างเป็นเขต ธรณีสงฆ์
อาหารเป็นพิษจากกรด บงเครคิก พบครั้งแรกในไต้หวัน
เครนถล่ม ในโรงงานปลวกแดง จ.ระยอง ทับคนงาน เสียชีวิต บาดเจ็บเพียบ จนท.เร่งช่วยเหลือด่วน
“นายกฯ” ย้ำ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ไร้ทุจริต ปชช.ตรวจสอบได้ รับบินตปท.บ่อย เจอไอเดียดี นำปรับใช้พัฒนาประเทศไทย
ตำรวจไซเบอร์ บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนรายใหญ่ ลักลอบตั้งฐานในไทย พบเหยื่อเพียบ
เช็กลิสต์สหายเสื้อแดงลี้ภัยต่างแดน จ่อกลับไทยมาสู้คดี จับตาก๊วน 3 นิ้วติดคดี 112 เลิกหนีหัวซุกหัวซุนต่างแดนตามรอย "จักรภพ" โมเดล
จีน ก๋วยเตี๋ยวหอยทาก “หลัวซือเฝิ่น” กับความคลั่งไคล้ระดับชาติ
จีน ค้านมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือแบบไม่ลืมหูลืมตา
รัสเซีย วีโต้มติยูเอ็นต่ออายุการติดตามคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น