จากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการอัยการ หรือ ก.อ. เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา มีมติเห็นควรสอบสวนวินัยร้ายเเรง นายเนตร นาคสุข ขณะดำรงตำแหน่งรองอัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส อยู่วิทยา ทนายาทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ในคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เเละมีคำสั่งตั้งนายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อดีตอธิบดีสำนักงานอัยการคดีพิเศษ เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายเเรงไปเเล้วนั้น
ในการประชุม ก.อ.วันที่ 18 ตุลาคม นี้จะมีการบรรจุวาระการประชุมโดยนายพชร ยุติธรรมดำรง ประธาน ก.อ. เห็นควรนำเสนอ ก.อ. ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงตามกฎหมายและระเบียบข้าราชการอัยการ ประกอบด้วย ประธานกรรมการ 1 คนคือ นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ ก.อ.สายบำนาญ เเละกรรมการ 5 คนประกอบด้วย 1.นายชาติพงษ์ จีระพันธุ รองอัยการสูงสุด 2.นายเชาวลิต วงศานรเศรษฐ์ อธิบดีอัยการภาค 4 รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจการอัยการ 3.นายสุวิช ชูตระกูล อธิบดีอัยการสำนักงานปกครองเพชรบุรี รักษาการในตำแหน่งอธิบดีอัยการภาค 7 4.นายอนุชา วัฒนวิภา อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคณะกรรมการอัยการ รักษาการในตำแหน่งรองอธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ เเละตั้ง พ.ต.ต.สันติ มุริจันทร์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุดสำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดขอนแก่นเป็นผู้ช่วยเลขานุการอัยการ เสนอ ก.อ. เพื่อโปรดพิจารณา
สำหรับรายชื่อคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายเเรงในครั้งนี้ที่เสนอโดยนายพชร ประกอบไปด้วยผู้มีความรู้ความสามารถเป็นที่ยอมรับในองค์กรที่จะไม่เป็นมวยล้มต้มคนดู เเละเป็นคณะกรรมการอัยการอยู่หลายคน อย่างเช่น นายธนพิชญ์ ประธานสอบก็เคยเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษคนเเรกๆเมื่อครั้งตั้งสำนักงานใหม่ ขึ้นชื่อเรื่องเป็นคนมีฝืมือมาก ประสบการณ์ ทำงานมีความซื่อสัตย์ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย
ส่วนนายนายชาติพงษ์ รองอัยกายสูงสุด อาวุโสลำดับที่ 1 เเละ ก.อ.โดยตำเเหน่ง เป็นบุคคลซึ่งอัยการปัจจุบันยอมรับฝีมือ มีประสบการณ์มาก สมัยนั่งรองอธิบดีอัยการคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะทำงานคุมคดีสำคัญ ของสำนักงานคดีพิเศษหลายคดี เช่น คดี ฟิลิป มอร์ริส,คดีทุจริต สหกรณ์เครดิต ยูเนี่ยนคลองจั่น , คดีธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้ กลุ่มบริษัทกฤษดามหานครโดยทุจริตที่มีอดีตนายกรัฐมนตรีเเละนักการเมือง นักธุรกิจนายธนาคารตกเป็นจำเลย รวมถึงคดีทุจริต การฟอกเงินในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน
