ัวันที่ 16 ต.ค. 2564 จากการที่วัดเขาพระทอง หมู่ 1 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ดำเนินการก่อสร้างโบสถ์จากเงินที่พุทธศาสนิกชนร่วมบริจาคในช่วงที่คณะสงฆ์วัดเขาพระทอง ร่วมกับลูกศิษย์วัดและสื่อมวลชนร่วมเดินธุดงค์ธรรมายาตรา กรุงเทพมหานคร” 810.4 กม. รวมระยะเวลา 32 วันระหว่างวันที่ 4 มี.ค.-4 เม.ย. 2564 ซึ่งมีคณะของบิณฑ์-เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ คู่แฝดดารานักบุญเมืองไทยและคณะมาร่วมเดินในช่วงผ่านตัวเมืองนครศรีธรรมราช ได้เงินบริจาคตั้งต้นรวม 3 ล้านบาทและทางวัดได้ทำการว่าจ้างบริษัทผู้รนับเหมาก่อสร้างโบสถ์มูลค่า 15 ล้านบาทแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ ละ 1 ล้านบาท โดยในปัจจุบันได้ดำเนินการก่อสร้างในส่วนของรากฐานพร้อมจ่ายเงินค่าจ้างแล้ว 2 งวด โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างกรุใต้ฐานโบสถ์เพื่อบรรจุวัตถุมงคลองค์จตุคาม-รามเทพที่มีผู้บริจาคนับพันรุ่นรวมหลายล้านองค์รวมทั้งวัตถุหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
พระมหาอารยนันต์ อานันโท รักษาการเจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง เปิดเผยว่าเมื่อเย็นวานนี้ (15 ต.ค.) ทางวัดได้ประกอบพิธีทางศาสนาและบวงสรงเทพยพาฟ้าดินเพื่อบรรจุวัตถุบทสวดรัตนสูตรองค์พ่อจตุคาม-รามเทพ และหลวงปู่ทวดในกรุใต้ฐานโบสถ์ขนาด 3×4 เมตร โดยมีคุณสวรรพิศา จงเพิ่มวัฒนะผล นักธุรกิจชื่อดังในจังหงวัดนครศรีธรรมราชเป็นประธานในการประกอบพิธี โดยมีนักธุรกิจ นักการเมือง และประชาชนร่วมในพิธีประมาณ 30 คน ท่ามกลางมาตรการควบคุมป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ในขณะที่ชาวบ้านที่สนใจได้แยกย้ายกันไปนั่งเป็นจุด ๆ ตามใต้เงาแมกไม้รอบบริเวณที่ประกอบพิธี ซึ่งพิธีเริมจากศาสนพิธีกรได้เชิญคุณสวรรพิศา จงเพิ่มวัฒนะผล ประธานในพิธี ฯจุดธูปเทียนชูชาพระรัตนตรัย ร่วมไหว้พระ อาราธนาศีล รับศีล อาราธนาพระปริตร พระภิกษุสงฆ์ 9 รูปสวดเจริญพระพุทธมนต์ สวดรัตนสูตร สวดธัมจักรกัปปวัตนสูตร จากนั้นพระอาจารย์สุรศักดิ์ สํวโร หรือ “หลวงพี่เกิ้ง” เจ้าสำนักสงฆ์ควนไม้บ้อง ได้ลงไปในกรุใต้ฐานโบสถ์และใช้ใบตองและใบเงินใบทองปูรองบนพื้นฐานกรุใต้ฐานโบสถ์ที่จะใช้วางบรรจุวัตถุมงคลพร้อมใช้แป้งเจิมสะดือกรุเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล “จากนั้นได้ประกอบพิธีพราหมณ์โดย “พราหมณ์เล็ก เขาเหมน” อ่านโองการสวรรค์บวงสรวงเทพยพาฟ้าดิน เจ้าที่ เจ้าทาง เจ้าป่า เจ้าเขา หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หลวงพ่อองค์ใหญ่ หลวงพ่อเกตุแหลม ไอ้ไข่เด็กวัดเพระทอง พ่อปู่พญานาคมุจลินท์ องค์พ่อจตุคาม-รามเทพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ในขณะที่พระเกจิอาจารย์นั่งปรกอธิฐานจิตปลุก 4 ทิศรอบวัตถุมงคลทั้งหมด ก่อนจะทยอยนำวัตถุมงคลองค์พ่อจตุคาม-รามเทพ และหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดลงไปบรรจุในกรุจนเกือบเต็ม”
อย่างไรก็ตามในช่วงแรกของการประกอบพิธีท้องฟ้ามืดครึ้ม และลมพัดกรรโชกรุนแรงแรงและเริ่มมีสายฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อย จนทุกคนเชื่อว่าจะเกิดฝนตกหนกลงมาอย่างแน่นอน แต่หลังจากนั้นไม่นาน ท้องฟ้าเปิดสว่างไสวดวงอาทิตย์ได้เปล่งแสงสาดส่องลงมาอย่างรุนแรง จนพระเกจิอาจารย์ที่นั่งปรกอธิฐานจิตปลุกเสก และ“พราหมณ์เล็ก เขาเหมน” ต้องประกอบพิธีท่ามกลางแสงแดดที่สาดส่องลงมาจนร้อนอบอ้าวรุนแรงตลอดช่วงการประกอบพิธี และสิ่งที่น่าอัศจรรย์ได้เกิดขึ้นเมื่อผู้ร่วมพิธีได้ชี้ให้ดูปรากฏดวงจันทร์ครึ่งเสี่ยวของวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 11 ที่โผล่ขึ้นเหลือท้องฟ้าด้านทิศตะวันออกแม้แสดงแดดจะส่องจ้าแต่สามารถมองเห็นดวงจันทร์อย่างชัดเจน ในขณะนี้ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยจะลับทิวเขาไปทางทิศตะวันตก นับเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “ดวงอาทิตย์-ดวงจันทร์” เกิดขึ้นพร้อมกันในเวลากลางวัน บ่งบอกวาเทวดาฟ้าดินเบื้องบนรับรู้ เจ้าหน้าที่จึงทำการจุดประทัดเฉลิมฉลอง 10,000 นัดจึงถือเป็นการเสร็จสิ้นพิธีอย่างเรียบร้อยทุกประการในเวลา 16.51 น. วันเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเสร็จสิ้นพิธีผู้ที่ร่วมในพิธีและบรรดาคอหวยได้วิ่งกรูไปตรวจสอบเลขหางประทัดที่จุดเฉลิมฉลอง 10,000 นัดซึ่งผูกติดกับโครงเหล็กเสาโบสถ์สูงขึ้นไปประมาณ 3 เมตร มองเห็นผ้าหางประทัดโดนลมปลิวสะบัดอยู่ด้านบน โดยเห็นเลขหางประทัดแค่เลข 975ในลักษณะกลับหัว เจ้าหน้าที่ได้ปีนขึ้นไปนำผ้าหางประทัดลงมาตรวจสอบพบว่าแท้ประกอบด้วยเลข 2 ตัว คือเลข 89 และเลข 3 ตัวคือเลข 675 ต่างใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพเอาไว้รวมทั้งจดใส่ฝ่ามือ และเศษกระดาษ รวมทั้งเลขธนบัตรฉบับละ 100 บาท หมวด 6 ต 3166933 หรือ 6 H 3166933 ในถุงใส่วัตถมงคล นอกจากนี้ยังมีเลขเด็ด “เปรตเดือนสิบจากการทำบุญชิงเปรตเดือนสิบ 98,265 เพื่อนำไปเสี่ยงโชคแทงหวยงวดวันที่ 16 ต.ค. 2564 กันอย่างคึกคักเป็นพิเศษ .
ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช
