จากกรณีอิทธิพลพายุโซนร้อน “คมปาซุ” ร่องมรสุมพาดผ่านจังหวัดปราจีนบุรี ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในบางแห่ง พิษพายุคมปาซุ ส่งผลให้ใน จ. ปราจีนบุรี มีฝนตกหนักทำให้บ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ อ.ประจันตคาม ได้ถูกน้ำป่าไหลหลากไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนไปแล้วในเมื่อวานนี้ และบริเวณอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดาได้มีปริมาณน้ำฝนไหลลงเป็นจำนวนมากเช่นกัน โดยปริมาณน้ำในอ่างวันที่ 15 ตุลาคม 2564 มีปริมาณ 306.99 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 104.06 % (ความจุ 295 ล้านลูกบาศก์เมตร) โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานฤบดินทรจินดา มีความจำเป็นต้องระบายน้ำออกจากอ่างเพื่อควบคุมปริมาณน้ำในอ่างไมให้เกินความจุ เพื่อความปลอดภัยของตัวเขื่อน ในอัตราวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือในปริมาณที่เหมาะสมกับปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่าง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น กองอำนวยการการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี โดยนายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ราษฎรทราบถึงการระบายน้ำดังกล่าว จะมีผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำตามแนวคลองห้วยโสมง แควหนุมาน และบริเวณตลาดเก่ากบินทร์บุรี อาจทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งและน้ำท่วมฉับพลัน ขอให้เก็บของขึ้นที่สูง
จากกรณีข้างต้นนี้ทำให้ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีมีฝนตกหนัก และมีมวลน้ำกระจายเต็มพื้นที่จนทำให้ประมาณน้ำในแควหนุมานได้เอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่บริเวณชุมชนตลาดเก่า เทศบาลตำบลกบินทร์เมื่อคืนนี้ ซึ่งบริเวณตลาดเก่า 100 ปี ในเขตเทศบาลตำบลกบินทร์ ได้ถูกน้ำไหลเข้าท่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว ระดับน้ำสูงกว่า 45 ซม. ทำให้ชาวบ้านต้องกลับมาใช้ชีวิตในการเดินทางลุยน้ำและใช้เรือในการเดินทางเข้าออกอีกครั้ง ทำให้พระสงฆ์จากวัดใหม่ท่าพาณิชย์ที่เคยไปรับบาตรจากชาวบ้านในชุมชนตลาดเก่าต้องเดินลุยน้ำเพื่อไปบิณฑบาตร ซึ่งระดับน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี หน้าสถานีอุตุฯกบินทร์บุรี เวลา 06.00 น.เช้านี้ วัดได้ 9.26 เมตร (เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง) ความสูงของตลิ่งฝั่งซ้าย 8.79 เมตร ความสูงของตลิ่งฝั่งขวา 9.24 เมตร
ภาพ-ข่าว / ทัตธน เหล่าหล้า ผู้สื่อข่าว TOPNEWS จ.ปราจีนบุรี