ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศสประกาศการตัดสินใจครั้งใหญ่ก่อนการประชุมสุดยอดด้านสภาพอากาศขององค์การสหประชาชาติ 1 เดือน และก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี 6 เดือนว่า ได้วางแผนมูลค่า 3 หมื่นล้านยูโร (หรือประมาณ 1 ล้านล้านบาท) เพื่อนำฝรั่งเศสเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่โดยใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า เชื้อเพลิงไฮโดรเจน และโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีประสิทธิภาพ
มาครงระบุรายละเอียดว่า การใช้จ่ายดังกล่าวเพื่อแก้ปัญหาสำหรับฝรั่งเศสในเรื่อง การขาดดุลการเติบโต ที่เกิดจากการลงทุนที่ไม่เพียงพอในอดีต ฝรั่งเศสจำเป็นต้องกลับไปสู่วัฏจักรที่ประกอบด้วย การสร้างสรรค์ การผลิต และการส่งออก โดยในทศวรรษหน้า ฝรั่งเศสตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำระดับโลกด้านไฮโดรเจน ซึ่งรัฐบาลและบริษัทต่างๆ ได้ให้ความสำคัญกับความพยายามในการลดการปล่อยคาร์บอนในภาคเศรษฐกิจที่พึ่งพาเชื้อเพลิงเป็นส่วนใหญ่ของด้านพลังงาน
นอกจากนี้ มาครงยังกล่าวว่า หลังจากการระบาดของโควิด-19 ฝรั่งเศสยังต้องลงทุนอีกมากมายในการวิจัยทางการแพทย์ แม้จะล้มเหลวในการผลิตวัคซีน จุดมุ่งหมายขณะนี้คือ ให้ฝรั่งเศสพัฒนายาเทคโนโลยีชีวภาพ “อย่างน้อย 20 ชนิด” เพื่อต้านมะเร็ง โรคอุบัติใหม่และโรคเรื้อรัง ซึ่งรวมถึงยาที่เกี่ยวข้องกับการสูงวัยด้วย