No data was found

เตือนภัย.โจรบุกลักไม้ด่าง จนท.เทศบาล อีกรายหลอกซื้อของถูกแต่เอาของแพงขึ้นรถ หนีลอยนวล(มีคลิป)

กดติดตาม TOP NEWS

ปราจีนบุรี-กระแสไม้ด่างกำลังมาแรงช่วงนี้ เจ้าของร้านต้นไม้ด่างเข่าอ่อน วันเดียวโดนทั้งโกงและขโมยรวมมูลค่ากว่าหลายหมื่นบาท

จากกระแสไม้ด่างในตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมกันมากในช่วงนี้ และราคาบางต้นบางชนิดมีราคาพุ่งสูงถึงหลักหมื่น หลักแสน ก็มี ทำให้มีนักเล่นต้นไม่ทั้งมืออาชีพ และมือสมครเล่น ต่างเข้ามาเลือกซื้อหากันไปเป็นจำนวนมาก จนทำให้บ้างร้าน และบางบ้านเกิดการสูญเสียจากมิจฉาชีพเข้ามาขโมยเสียหายกว่าหลายหมื่นบาท ผู้เสียหายสาวเจ้าหน้าที่เทศบาลโดนมิจฉาชีพบุกบ้านพักขโมยต้นกระดาษด่างซึ่งมีมูลค่ากว่า 15,000 บาท  อีกรายหลอกซื้อต้นไม้คุณยายวัย 72 ปี ไป 2 ต้น ราคารวม 600 บาท หลังจ่ายเงินกับยกกระถางต้นกระดาษด่าง ราคาตันล่ะ 4,300 บาท ออกไป 2 กระถาง มูลค่า 8,600 บาท

 

เมื่อช่วงสายของวันนี้ 12 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจาก น.ส.ณัฐลดา แก้วเนตร อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่เทศบาลกองช่างโพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ว่าต้นกระดาษด่างของตนนั้นได้ถูกขโมยมาขโมยไปจากบ้านพักของตนระหว่างที่ตนไปทำงาน และได้รับแจ้งจาก นางผล  คำภา อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นมารดาของนางสาว สุภาพร เจรดง เจ้าของร้านจำหน่ายไม้ประดับชื่อร้าน แพรว พันธุ์ไม้  ภายในชุมชน ตลาดไม้ด่างบ้านยางเรียกทรัพย์ ว่าได้มีลูกค้ามาซื้อต้นไม้ภายในร้านตน หลังจากตกลงซื้อต้นไม้และได้จ่ายเงินเสร็จแล้วนั้น ลูกค้ากลับยกกระถางต้นไม้ด่างภายในร้านตนขึ้นรถไป ทั้งที่ไม่ใช่ต้นที่ลูกค้าซื้อ ทำให้ตนสูญเสียต้นไม้ด่างไป 2 กระถางมีมูลค่าหลายหมื่นบาท หลังจากได้รับแจ้งผู้สื่อข่าวได้ลงตรวจสอบพื้นที่บริเวณบ้านพักเจ้าหน้าที่เทศบาลกองช่างโพธิ์งาม และบริเวณร้านแพรวพันธุ์ไม้  ในพื้นที่ ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี

 

 

จากการสอบถาม น.ส.ณัฐลดา แก้วเนตร อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่เทศบาลกองช่างโพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่าเมื่อช่วงพักเที่ยงของวันที่ 11 ต.ค.64 ที่ผ่านมา ตนได้กลับจากที่ทำงานมายังบ้านพัก เลขที่ 6/1 ม.17 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ซึ่งอยู่หลังตลาดไม้ด่างบ้านยางเรียกทรัพย์ เพื่อกลับมาเอาสายชาร์ตแบตโทรศัพท์มือถือ ก่อนตนจะขึ้นไปบนบ้านพักนั้น ตนสังเกตุต้นกระดาษด่างที่ปลูกไว้ในกระถางสีดำที่วางไว้หัวบันใดบ้านได้หายไป เหลือเพียงแต่กระถางสีดำที่คนร้ายทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ซึ่งต้นกระดาษด่างต้นนี้ตนได้ซื้อมาเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ในราคาต้นละ 8,500 บาท และตนได้นำมาเลี้ยงไว้เป็นเวลากว่า 20 วันแล้ว ตนคิดว่าพอโตอีกสักนิด ตนก็จะจำหน่ายออกเพื่อนำผลกำไรจากการขายต้นกระดาษด่างต้นนี้ แล้วจะนำเงินไปมอบให้คุณแม่เพื่อต่อเติมบ้านที่สระแก้ว แต่ก็ต้องเสียความรู้สึกเพราะต้นกระดาษด่างของตนนั้นหายไปเสียแล้ว ทุกเช้าตนจะตื่นขึ้นมาประคบประหงมต้นไม้ทุกต้นที่ตนซื้อมา เปรียบเสมือนการกินกาแฟและขนมปังไปด้วยในยามเช้า  ซึ่งราคาก่อนที่ต้นไม้จะหายไปจะประเมินราคาอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาทเห็นจะได้แต่ก็ได้มาอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

จากการสอบถาม นางผล  คำภา อายุ 72 ปี มารดาของนางสาว สุภาพร เจรดง เจ้าของร้านจำหน่ายไม้ประดับชื่อร้าน แพรว พันธุ์ไม้  ภายในชุมชนตลาดไม้ด่างบ้านยางเรียกทรัพย์ กล่าวว่าขณะที่ นางผล  คำภา ยายวัย 72 ปี เฝ้าร้านอยู่เพียงคนเดียวนั้นได้มีลูกค้า เข้ามาเลือกชมต้นไม้ ซึ่งมาด้วยกัน 3 คน เป็น ชาย 1 หญิง 2 คน ได้นำรถมาจอดอยู่บริเวณหน้าร้าน และลูกค้าทั้ง 3 คนได้ลงมาเลือกเดินดูต้นไม้ภายในร้าน สักพักหนึ่ง ลูกค้าที่เป็นหญิง 1 คนได้เดินมาหาตน และบอกว่าขอซื้อต้นไม้กระถางเล็ก 2 กระถาง พร้อมหยิบเงินส่งให้คุณยาย 600 บาท โดยที่ยายคิดว่าเป็นต้นไม้ต้นธรรมดา เพราะคนที่จ่ายเงินนั้นได้ยืนคุยอยู่กับคุณยาย ส่วนลูกค้า อีก 2 คน เป็นชาย 1 หญิง 1 ได้ยกกระถางต้นไม้ขึ้นรถไปแล้ว โดยที่คุณยาย คิดว่า เขายกต้นไม้ที่ราคา ต้นละ 300 บาทขึ้นรถไป แต่พอลูกสาวคุณยายกลับมาถึงร้าน คุณยายได้นำเงินจำนวน 600 บาท มอบให้แก่ลูกสาวไป และบอกลูกสาวว่าแม่ได้ขายต้นไม้ไป 2 กระถางในราคาต้นล่ะ 300 บาท จำนวนสองต้น ลูกสาวถามแม่ว่าแม่ได้ขายต้นอะไรไป แม่ตอบไม่ถูกจึงได้เดินมาดูถึงได้รู้ว่า ที่ลูกค้าหยิบกระถางต้นไม้ไป 2 กระถางนั้น คือต้นกระดาษด่างที่ติดราคาขายไว้ที่ต้นละ 4,300 บาท ทั้ง 2 กระถาง งานนี้จึงขาดทุนไปหลายพันบาทเลยทีเดียว ทำให้ตนและลูกสาวถึงกับเข่าอ่อนกันเลยทีเดียว

 

 

จากการสอบถาม นางสาวสุภาพร เจนดง อายุ39ปี ลูกสาวของยายผล และเป็นเจ้าของร้านแพรวพันธุ์ไม้ กล่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุนั้นเวลาประมาณ 12:45 น. ของวันที่ 11 ตุลาคม ที่ผ่านมาตนได้ออกไปซื้ออะไหล่เพื่อมาซ่อมรถกับสามี หลังกลับมาถึงที่ร้านทราบว่าร้านโดนขโมยต้นไม้ไปจึงได้ไปขอดูกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้าน พบเห็นรถต้องคันสงสัยเป็นรถเก๋ง nissan almera ส่วนทะเบียนรถไม่ชัดเจน ขับรถผ่านหน้าร้าน 2 รอบ หลังจากนั้นจึงมีชายหญิงลงมาซื้อต้นไม้กับคุณแม่ที่ร้าน โดยมีผู้ก่อเหตุเดินทางมาด้วยกัน 3 ราย ทางด้าน น.ส.สุภาพร ยังได้ฝากถึงผู้ที่ก่อเหตุว่าถ้าหากไม่ได้ตั้งใจหรือหยิบต้นไม้ผิดไปก็ขอให้นำมาคืน ตนก็พร้อมที่จะยินดีคืนเงิน600ที่จ่ายมาให้ แต่ถ้าหากตั้งใจโกงจริงๆตนก็ขอว่าอย่าได้ไปทำกับใครอีกเลย  ตนขอฝากเป็นอุทาหรณ์เตือนใจสำหรับพ่อค้าแม่ขายที่อยู่ในโซนบ้านเราว่า ให้ระมัดระวังกันด้วย ช่วงนี้กระแสต้นไม้ด่างของเราค่อนข้างที่จะดัง ทำให้มิจฉาชีพหาช่องทางที่จะมาขโมยหรือฉ้อโกงพ่อค้าแม่ค้า และอีกอย่างอย่าได่ปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่เฝ้าร้านเพียงคนเดียว เพราะผู้สูงอายุมักจะไม่ทันเหลี่ยมพวกมิจฉาชีพ

 

สายชล หนูแดง ดิเรกฤทธิ แสงสุวรรณ ผู้สื่อข่าว TOPNEWS จ.ปราจีนบุรี

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สหรัฐ ดอดส่ง ATACMS พิสัยไกลให้ยูเครน
ฮามาสปล่อยคลิปตัวประกันชาวอเมริกันเชื้อสายยิว
มจร. เร่งฝึกอบรมผู้บริหารเพื่อการพัฒนาแบบก้าวกระโดด
กะเหรี่ยงอ้าง “ทัพเมียนมา” ใช้อาวุธเคมี ทำทหารฝ่ายต่อต้านนอนดิ้นกับพื้น เพจดังเฉลยแล้ว เป็นอะไรกันแน่
ผอ.ฟ้า ถวายพระสมเด็จ 24 วัดทั่วประเทศ รวม3หมื่นองค์ ดารา-นักร้อง ชาวบ้านแห่ร่วมงานกันคึกคัก
"นักท่องเที่ยวจีน" ครองแชมป์ "เที่ยวไทย" มากสุดช่วงสงกรานต์ปี 2567
"ก้าวไกล" ฉุนทำประชามติแก้รธน. ไม่พ่วงคำถามแก้หมวด 1 และ 2 แตะสถาบันอ้างหลักการเอาประชาชนบังหน้าควรแก้ได้ทั้งหมด
"แม่ทัพภาค 1" จัดกิจกรรม ‘จิตอาสา ทำความดี ด้วยหัวใจ’ เขตดินแดง เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ
สหรัฐ ไล่จับจระเข้โผล่นอนเล่นสนามบิน
'นักท่องเที่ยวจีน' ครองแชมป์ 'เที่ยวไทย' มากสุดช่วงสงกรานต์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น