นายกรัฐมนตรีอิสมาอิล ซาบรี ยาคอบ แถลงถึงความสำเร็จของเป้าหมายการสร้างภูมิคุ้มกันว่า การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาด จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่จะไม่ถูกยกเลิกแม้ว่าจะมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นก็ตาม จึงอยากให้ทุกคนมั่นใจว่าธุรกิจและการดำรงชีวิตจะดำเนินต่อไปตามปกติ หากเจอการติดเชื้อเพิ่ม ก็จะกำหนดข้อจำกัดเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น ทั้งนี้ ทุกคนยังคงต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบต่างๆ เช่น การเว้นระยะห่าง และการสวมหน้ากากอนามัย
ชาวมาเลเซียที่ได้รับวัคซีนครบถ้วน จะได้รับอนุญาตให้เดินทางภายในประเทศได้ทั่วประเทศ และผู้ที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศก็สามารถทำได้ แต่เมื่อกลับเข้ามาประเทศ ยังต้องทำการกักตัว 14 วัน อย่างไรก็ดี ทางการยังคงไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามา เว้นแต่ผู้ที่เข้ามาทำงานหรือธุรกิจเท่านั้น โดยกระทรวงสาธารณสุขกำลังประเมินว่าประเทศใดมีสถานะปลอดภัยแล้ว ก่อนที่จะมีการประกาศในเร็วๆนี้ ซึ่งต้องพิจารณาปัจจัยหลายประการ ได้แก่ จำนวนผู้ติดเชื้อ อัตราการเสียชีวิต และระดับการฟื้นตัวในประเทศเหล่านั้น
การประกาศครั้งล่าสุดนี้ เกิดขึ้นหลังจากประสบความสำเร็จกับโครงการ Travel Bubble ที่นำร่องเปิดเกาะลังกาวีให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้าไปเที่ยวได้เมื่อวันที่ 16 กันยายน เพราะจนถึงขณะนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อในหมู่นักท่องเที่ยวเพียงรายเดียวเท่านั้น
สำหรับ จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในมาเลเซียลดลงจนเหลือหลักพัน จากที่เมื่อ 6 สัปดาห์ก่อน ยอดทะลุไปที่เกือบ 25,000 คน และยอดการเสียชีวิตก็ลดลงจาก 2 เดือนที่แล้วที่กว่า 400 คน เป็นเหลือประมาณ 100 คนต่อวัน และแม้จะมีการติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการร้ายแรงแต่อย่างใด โดยการฉีดวัคซีนได้ลดอัตราการเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู 83 เปอร์เซ็นต์ และการเสียชีวิตได้ถึง 88 เปอร์เซ็นต์