เมื่อการทำงานมีการใช้งานอินเตอร์เนตมากขึ้น ธุรกิจ Co-Working Space จึงเริ่มมีฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น มีการย้ายออกจากสำนักงานไปยังพื้นที่หลากหลายอย่างหลังคาและระเบียง
เฟอร์นานโด บอตทูร่า เจ้าของ GoWork ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจ Co-Working แห่งแรกในเซาเปาโล ที่ปัจจุบันมีกิจการอยู่ 14 แห่ง ได้กล่าวว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ของธุรกิจใน GoWork เป็นแบบธรรมดา แต่ขณะนี้มี Co-Working Space ประมาณ 200 แห่งในเซาเปาโล เริ่มออกไปข้างนอกมากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มจะไม่มีความจำเป็นในการเช่าสำนักงานอีกต่อไป
ในบราซิล เริ่มมีการเพิ่มขึ้นของ Co-Working Space ในช่วง ปี 2015-2019 เกือบ 1,500 แห่ง สำหรับเมืองเซาเปาโลที่มีประชากร 12 ล้านคน Co-Working Space แห่งหนึ่ง มีการตกแต่งบนระเบียงและหลังคาให้เหมือนชายหาดที่มีร่มปักอยู่ ซึ่งติดๆกันก็จะมีร้านกาแฟ และสนามกีฬา
เรแนน คามาร์โก วัย 38 ปี พ่อค้าออนไลน์ที่มาใช้พื้นที่กล่าวว่า เขาดูแลความเป็นอยู่ของพนักงานเป็นอย่างดี เขารู้ว่าพนักงานที่ทำงานด้วยจิตใจที่ดี จะมีพัฒนาการอย่างมาก
ผู้ใช้บริการอีกรายมาเทอุส แซนโตส ตัวแทนฝ่ายขายในการตลาดดิจิทัล วัย 25 ปี กล่าวว่า มันเป็นเรื่องสมเหตุสมผลในการมองหาสภาพแวดล้อมที่มีความเอื้อต่อการยืดหยุ่นพอๆกับการลงทุน
สำหรับ Co-Working Space ในรูปแบบสำหรับครอบครัว – B2Mamy ที่สร้างขึ้นในปี 2019 ดานี่ลี จันโก เจ้าของวัย 41 ปี ได้บอกเล่าถึงพื้นที่แห่งนี้ว่า สร้างขึ้นสำหรับผู้หญิงที่ทำงานในอุตสาหกรรมยา ประดับด้วยข้อความที่สร้างแรงบันดาลใจว่า ระหว่างความเป็นแม่และเป็น CEO จงเลือกทั้ง 2 อย่าง เรามีพื้นที่สำหรับผู้ใหญ่ พื้นที่สำหรับเด็ก ศูนย์กลางนวัตกรรม ชั้นเรียน และยังมีคนดูแลเด็กอีกด้วย
เจสสิก้า อุลเลียม เฟอร์รารี รัว คุณแม่วัย 36 ปี ซีอีโอของบริษัทดิจิทัล เป็นหนึ่งในผู้หญิง 60 คนที่ใช้ Co-Working Space ทุกวัน เธอนอนลงบนฟูกลูบผมของลูคัส ลูกชายวัย 3 ขวบของเธอ เธอบอกว่าเธอสามารถดูแลลูกให้หลับสัก 10 นาทีแล้วจึงกลับไปทำงานซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีของคนเป็นแม่ที่ยังทำงานไปด้วยได้