วันที่ 5 ต.ค. 2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พื้นที่ของ จ.พัทลุง ยังพบผู้ป่วยติดเชื้ออย่างต่อเนื่องในแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 50 ราย ล่าสุดวันนี้ ตรวจพบผู้ป่วย เพิ่มสูง 175 ราย มีผู้เสียชีวิต เพิ่มอีก 2 ราย ทางจนท.สาธารณสุขพัทลุง เร่งคัดกรองเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงหลายพื้นที่ ซึ่งในพื้นที่อำเภอปากพะยูนมีผู้ติดเชื้อ 31 ราย อ.กงหรา 65 ราย อ.ตะโหมด 31 ราย อ.ควนขนุน 3 ราย อ.เมือง 6 ราย อ.ป่าบอน 7 ราย อ. เขาชัยสน 14 ราย อ. บางแก้ว 1 ราย อ.ป่าพะยอม 8 ราย และ อ.ศรีนครินทร์ 9 ราย สำหรับอำเภอกงหรามียอดผู้ติดเชื้อมากสุดมาจากคลัสเตอร์คนงานรับจ้างที่ออกตระเวนรับจ้างทำงานไปทั่วติดเชื้อ และพาเชื้อไปติดเพื่อนบ้าน ส่วนอำเภอปากพะยูน คลัสเตอร์มาจากแม่ค้าไปรับซื้อสินค้ามาจากพื้นที่เสี่ยงของจังหวัดใกล้เคียง และนำมาจำหน่ายให้ลูกค้าในพื้นที่ ขณะเดียวกัน ยังพบว่าการติดเชื้อภายในครอบครัวที่คนภายในครอบครัวไปติดมาจากบุคคลภายนอกก็มีมาก ทำให้กลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยติดเตียงที่อาศัยอยู่ด้วยร่วมมีความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิต และในวันนี้พื้นที่ของ จ.พัทลุง พบผู้ป่วยรายใหม่ 175 ราย สะสมรวม 5,526 ราย และวันนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิต 2 ราย รวมมีผู้เสียชีวิตสะสมแล้ว 52 ราย
ล่าสุด นายกู้เกียรติ วงค์กระพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพัทลุงได้ลงนามในประกาศจังหวัดพัทลุงเรื่องขอความร่วมมือประชาชน ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในการปฏิบัติศาสนกิจเนื่องในงานประเพณีบุญสารทเดือน สิบ ของ จังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่า ในวันที่ 6 ตุลาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ตรงกับวันประเพณีสารทเดือนสิบ ซึ่งถือเป็นงานบุญประเพณีสำคัญ ของคนทางภาคใต้ ที่ได้มีโอกาสทำบุญเพื่อการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณของบรรพชนและญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ทุกปีจะมีการรวมตัวที่วัดหรือสำนักสงฆ์ต่าง เพื่อร่วมกิจกรรมทำบุญวันสารทเดือนสิบ แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง มีการแพร่ระบาดในระดับสูงและพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีการกระจายไปยังหลายพื้นที่ จังหวัดพัทลุงจึงออกประกาศขอความร่วมมือไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชนในจังหวัดให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพัทลุงกำหนด
โดยวัดหรือสำนักสงฆ์ ที่มีประชาชนเดินทางไปร่วมทำบุญ จะต้องจัดเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ในการตรวจวัดอุณหภูมิและมีการลงทะเบียนผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน ก่อนเข้าไปในบริเวณศาสนสถาน ให้มีการจัดวางเจลล้างมือแอลกอฮอในบริเวณประตูทางเข้า วัดหรือสำนักสงฆ์ ทั้งจะต้องทำความสะอาดพื้นผิวในบริเวณต่างๆ ก่อนและหลังการทำปฏิบัติศาสนกิจ และต้องจัดในที่ ที่มีอากาศถ่ายเท หากสถานที่นั้นมีเครื่องปรับอากาศจะต้องไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ โดยให้เปิดหน้าต่าง เปิดผ้าม่าน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ทางวัดหรือสำนักสงฆ์ จะต้องทำเครื่องหมายที่ นั่งประกอบพิธีทางศาสนาหรือที่นั่งพักโดยให้เว้นระยะห่างระหว่างแต่ละจุดประมาณ 2 เมตร โดยคำนวณพื้นที่ไม่น้อยกว่าสี่ตารางเมตร ต่อหนึ่งคน ทางเจ้าหน้าที่ หรือทางวัดจะต้องคัดกรองบุคคลโดยห้ามบุคคลที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมโดยเด็ดขาดและให้จัดเฉพาะพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น ห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวม กลุ่มอื่นๆ เช่นการประกวดหมรับ และกระบวนแห่หมรับ พร้อมห้ามงานแสดงสินค้า หรือมหกรรมสินค้า งดกิจกรรมสันทนาการต่างๆไม่ว่าจะเป็นขบวนกลองยาว หรือกิจกรรมการรำวง
นอกจากนั้นในประกาศยังขอความร่วมมือประชาชนที่ไปร่วมกิจกรรมตามประเพณีให้ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่ทางวัดจัดให้ ให้สวมหน้ากากอนามัย โดยให้ปิดทั้งปากและจมูกตลอดเวลาของการปฏิบัติศาสนกิจ หรืออยู่ร่วมกัน งดการรวมกลุ่มพูดคุยหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีการรวมตัวใกล้ชิดเป็นจำนวนมาก การถวายภัตตาหาร จะต้องจัดเป็นสำรับและปิดมิดชิด ทั้งงดรับประทานอาหารและเครื่องดื่มร่วมกัน เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ให้งดการไปร่วมปฏิบัติศาสนกิจ โดยเฉพาะที่ผู้ที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก แม้อาการจะไม่มาก แต่ก็ขอให้งดการไปร่วมปฏิบัติศาสนกิจที่วัดโดยเด็ดขาด ที่สำคัญการสืบสานงานประเพณีบุญสารทเดือน สิบในปีนี้หากต้องการตั้งเปรตให้กำหนดสถานที่ ที่อากาศถ่ายเทและปลอดโปร่ง ทั้งห้ามให้มีกิจกรรมชิงเปรตโดยเด็ดขาด
วสุ ปัณห์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค พัทลุง
