นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อดีตพุทธะอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กข้อความว่า ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ เพราะมีนักบวชระดับมหาให้ท้ายอยู่หรือเปล่า ลัทธิล้มเจ้าพยายามทำมาเป็นแรมปี ซึ่งทำสารพัดวิธีในการด้อยค่า สถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ก็ไม่สำเร็จ คิวต่อไปก็คือ พระศาสนา ซึ่งผู้ที่ใช้นามว่า นายครูใหญ่ขอนแก่น ได้จั่วหัวเปิดฉากเอาไว้ตั้งแต่มอบธงแครอท ขึ้นเวทีไฮด์ปาร์คโจมตีศาสนาว่า เป็นตัวการสำคัญในการเชื่อมโยงผู้คนในสังคม ยึดเหนี่ยวประชาชนให้เกาะกลุ่มรวมกัน อย่างที่จะพลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ซึ่งเป็นหลักคิดของพวกล่าอาณานิคมที่พวกเขากำลังกระทำอยู่ ด้วยข้ออ้างต้องการประชาธิปไตย และสิทธิที่ทุกคนต้องเท่าเทียม (เฉพาะพวกตนเอง แต่ผู้เห็นต่างไม่มีสิทธิ) พักหลังนี้ เราท่านทั้งหลายจึงได้พบเห็นภาพและข่าวนักบวชแท้บ้าง นักบวชปลอมบ้าง กระทำการฉาวโฉ่อย่างต่อเนื่อง
เมื่อผู้กำหนดยุทธศาสตร์ล้มเจ้า ปฏิรูปวัฒนธรรม เล็งเห็นว่า ศาสนาในเมืองไทย คือหนึ่งในสามสถาบันหลักของประเทศ อ่อนแรง อ่อนด้อย และก็ดูเหมือนจะอ่อนแอ เพราะผู้ปกครองสงฆ์ มักจะมีหลักคิดอยู่ว่าไม่ใช่ธุระ ไม่อยากยุ่ง ไม่ต้องการแกว่งเท้าหาเสี้ยน จึงเป็นช่องให้ผู้ต้องการจะล้มล้าง ย่ำยี ดูแคลน นำเอาสิ่งที่เป็นข้อเสีย ช่องโหว่ มาโจมตีและกระทำพฤติกรรมย่ำยี ดังที่เห็นๆ กัน
งานนี้ คงจะได้เวลาล็อคเป้าอีกแล้วแหละพี่น้อง เพราะโบราณท่านสอนเอาไว้ว่า จับโจรต้องจับที่หัวหน้า ใครที่ทำตัวเป็นศาสดาของพวกล้มเจ้า ล้มวัฒนธรรม ก็ให้เตรียมตัว งานนี้คงมีเฮ กันอีกสักคราล่ะ