วันที่ 22 ก.ย. 2564 ร.ต.อ.ศักดิ์ชัย มีพูล รองสวน (สอบสวน)สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุยิงกันตายมีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 รายภายในบ้านเลขที่ 32/3 ม.3 ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จว.สุราษฎร์ธานี รีบตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.ทักษิณ ศิริโภคพัฒน์ ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ พ.ต.ท.อมร บุญศิลป์ สว.สืบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์ ประจำ รพ.กาญจนดิษฐ์ เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน8 และเจ้าหน้าที่กู้ภัยกาญจนดิษฐ์
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวที่บริเวณข้างบ้านพบศพนายประภาส แก้วกันรัตน์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ที่ 3 ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่บริเวรลำตำเสียชีวิตในสภาพนอนหงายสวมเสื้อยืดสีเทาสวมกางเกงยีนส์ และยังมีผู้เสียชีวิตในห้องนอนของบ้านอีกหนี่งรายทราบชื่อนายอิทธิพล แก้วกันรัตน์ อายุ 24 ปี เป็นลูกชายนายประภาส มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าที่หน้าอก สภาพนอนหงายไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นลายดอกสีดำ นอนเสียชีวิตอยู่ข้างที่นอน ที่บริเวณหน้าบ้านพบปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายฉัตรชาย บัวแก้ว อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ที่ 3 ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 หลังก่อเหตุได้เข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ พร้อมอาวุธปืนลูกซองห้านัดที่ใช้ก่อเหตุ
จากการสอบถามนางวรรณา แก้วกันรัตน์ อายุ 48 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า ครอบครัวของตนเองและครอบครัวผู้ก่อเหตุเคยทะเลาะมีปากเสียงกันในเรื่องเกี่ยวกับรถกระบะของที่บ้านเสียงดัง จึงไม่ค่อยจะลงลอยกัน และก่อนเกิดเหตุนายประภาสได้ขับรถเข้ามาจอดข้างบ้านและมีเสียงดังของเครื่องยนต์ ทำให้นายฉัตรชาย ที่นอนอยู่ในบ้านลงมาเตือนจนเกิดมีปากเสียงกันและมีการท้าทายกัน ก่อนที่จะใช้ปืนยิงใส่สามีและลูกชายจนเสียชีวิตดังกล่าว
สันทัด เจ็ดเสมียนใหม่ จ.สุราษฎร์ธานี