ตำรวจสืบสวน ภาค 5 ชุดปราบปรามแรงงานต่างด้าวผิดกฏหมาย จับกุมแก๊งแท็กซี่ลีมูซีนสนามบินสุวรรณภูมิ เดินสายขึ้นภาคเหนือไปรับคนต่างด้าวแรงงานพม่า ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดชียงใหม่เพื่อลำเลียงเข้าสู่กรุงเทพฯ กว่า 14 คน โดยอ้างประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ หาเงินฝืดเคือง จึงต้องหารายได้เสริมด้วยการขนแรงงานต่างด้าว ทั้งที่รู้ว่าผิดกฎหมาย โดยมีนายหน้าชาวพม่าเป็นผู้หาแรงงาน ก่อนจะประสานสองผัวเมียสี่ล้อแดงในเชียงใหม่ไปรับมาในเมืองก่อนนำส่งให้แก๊งแท็กซี่ลีมูซีน แอบลักลอบเดินทางไปกรุงเทพฯ สารภาพได้ค่าจ้าง หัวละ 2,000-2500 บาท โดยทำมาแล้วเกือบ 10 เที่ยว
สืบเนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวน ภาค 5 สืบสวนสอบสวนจับกุมแก๊งลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งเป็นแหล่งแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 กระทั่งจากการสืบสวนก็พบว่ามี “แก๊งแท็กซี่” ที่ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวจากชายแดนเชียงใหม่ไปส่งที่กรุงเทพฯ จึงนำกำลังสกัดจับบริเวณด่านตรวจสกัดกั้นยาเสพติด สภ.แม่ทา ถนนเชียงใหม่-ลำปาง ต.แม่ทา จ.ลำพูน ต่อมาก็พบกลุ่มรถทั้งหมด 3 คัน ขับตามกันมา จึงเรียกให้หยุดและทำการตรวจค้น พบกลุ่มผู้ต้องหา 4 คน คือ นายธนาวุฒิ กุมภกาญจน์ อายุ 47 ปี นางสาวปินดารา ก้านแก้ว อายุ 37 ปี ชาวกรุงเทพฯ, นายศักศิริ แตงหนู อายุ 33 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี และนายเศรษฐวิทย์ ปราชญ์อำไพ อายุ 40 ปี ชาว จ.พะเยา พร้อมของกลางรถยนต์เก๋ง 3 คัน คือ โตโยต้าแคมรี่ สีดำ 1 คัน รถยนต์เก๋งโตโยต้าแคมรี่ สีบรอนทอง 1 คัน รถยนต์เก๋งยี่ห้องนิสสันมาร์ชสีดำ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง และบุคคลต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตเข้ามาในราชอาณาจักร จำนวน 14 คน โดยบางคนอุ้มลูกน้อยมาด้วย จึงจับกุมตัวนำไปดำเนินคดีข้อหา ร่วมกันซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่ว่ารู้เข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย พ้นจากการจับกุม
จากการสอบสวนผู้ต้องหาแก๊งแท็กซี่ลีมูซีน ให้การรับสารภาพว่า หลังจากภาวะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ประกอบกับเที่ยวบินมีน้อยมาก จึงประสบปัญหาในการทำมาหากิน ไม่มีรายได้ ต่อมาได้รับการประสานจากเพื่อนที่ขับรถโดยสารสี่ล้อแดงที่เชียงใหม่ ให้ไปรับคนต่างด้าวชาวพม่าที่เชียงใหม่ โดยจะให้ค่าขนแรงงานเหล่านี้ไปกรุงเทพฯ หัวละ 2,000 – 2,500 บาท เมื่อเห็นว่ามีรายได้ดีจึงตกลง และเดินทางไปรับมาแล้วเกือบ 10 เที่ยว และยังมีผู้ร่วมขบวนการที่มีหน้าที่เป็นพลขับอีกหลายคน ทั้งที่รู้ว่าเสี่ยงการถูกจับกุมก็ยอมเพื่อแลกกับรายได้ที่ดี
หลังจากสอบสวนผู้ต้องหาชุดแรก เจ้าหน้าที่ทำการขยายผลเข้าจับกุมตัว นายกสินโรจน์ แก้วมณี อายุ 28 และนางประภาพร แก้วมณี อายุ 29 ปี ชาว อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้พร้อมรถโดยสารสารสี่ล้อแดง โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และแรงงานต่างด้าวพม่าอีก 6 คน ซึ่งสองสามีภรรยาคู่นี้มีหน้าที่ไปรับแรงงานต่างด้าวนำมาส่งให้กลุ่มแท็กซี่ลีมูซีน จึงนำกำลังไปสกัดจับ ขณะกำลังขนแรงงานต่างด้าว จากพื้นที่ อ.แม่แตง เข้ามาในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้รับค่าจ้างหัวละ 1000-15000 บาท จากนายนัน นายหน้าชาวพม่า และทำมาแล้วหลายครั้ง