นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงความคืบหน้าการล่าชื่อส.ส.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาวาระสามว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อส.ส. โดยใช้วิธีล่าชื่อเฉพาะส.ส.เท่านั้น ซึ่งจะใช้เสียงส.ส.1 ใน10 หรือแค่ 48 คนเท่านั้น สามารถรวบรวมชื่อไปได้มากกว่าครึ่งแล้ว แต่ยังไม่ครบ 48 คน เสียงที่ได้ขณะนี้เป็นของพรรคเล็ก พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรครวมพลังประชาชาติไทย แต่ยังไม่มีเสียงของพรรคภูมิใจไทย และพรรคก้าวไกลกำลังอยู่ระหว่างทาบทาม ยอมรับหากไม่มีเสียงส.ส.ภูมิใจไทยและก้าวไกลเข้าชื่อด้วย จะได้เสียงไม่ถึง48 เสียง แต่พยายามประสานอยู่ ยังหวังว่าจะได้รับความร่วมมือ อย่างไรก็ตามถ้าภายในสัปดาห์นี้ยังได้เสียงไม่ครบ คงต้องหันไปพึ่งส.ว.เป็นผู้รวบรวมชื่อยื่นตีความต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเสียงส.ว.1ใน10 จะใช้แค่26เสียง มีการพูดคุยประสานงานกันอยู่ แต่ส.ว.ยังไม่รับปากจะยื่นตีความให้หรือไม่
นพ.ระวี กล่าวว่า หากไม่สามารถรวบรวมเสียงได้ครบจริง ๆ คงต้องหาช่องทางอื่น ๆ ทราบว่า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี จะไปยื่นเรื่องต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ กรณีหากนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับใดมีข้อบกพร่องขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ให้ส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยก็สามารถทำได้ โดยไม่ต้องใช้เสียงส.ส. หรือส.ว.เข้าชื่อกัน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจนายกฯจะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ เพราะร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวมีความขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญชัดเจน เพราะแก้ไขเกินหลักการในวาระหนึ่ง และยังทำลายเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญปี2560 ทำลายระบบจัดสรรปันส่วนผสมระบบส.ส.พึงมี และแก้ไขแบบลุกลี้ลุกลน