เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2564 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดำริเห็นว่า ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2564 เพื่อเป็นการแสดงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมควรพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องขังราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก้ประเทศชาติสืบไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบษา
สำหรับสาระสำคัญของ พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษพ.ศ. 2564 อยู่ที่มาตรา 4 ซึ่งระบุว่า “ผู้ซึ่งจะได้รับพระราชทานอภัยโทษตามพระราชกฤษฎีกานี้ ต้องมีตัวอยู่ในความควบคุมของทางราชการ หรือถูกกักขังไว้ในสถานที่หรือที่อาศัยที่ศาลหรือทางราชการกำหนด ในวันที่พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับติดต่อกันไป จนถึงวันที่ศาลออกหมายสั่งปล่อยหรือลดโทษ หรือนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งปล่อยหรือลดโทษตามที่บัญญัติไว้ในพระราชกฤษฎีกานี้ เว้นแต่ผู้ทำงาน บริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ และผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ”
ข้อความในมาตรา 4 ของพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ทำให้เป็นการดับกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ที่มีบางฝ่ายปั่นกระแสว่า นายทักษิณ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สองอดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีอยู่ต่างประเทศ จะได้กลับประเทศไทยเร็วๆนี้ ซึ่งนายทักษิณเอยถึงกับเคยประกาศในคลับเฮาส์ว่า จะกลับประเทศไทยแน่นอน และจะออกมาที่ประตูด้านหน้าสนามบินสุวรรณภูมิด้วย ซึ่งก็ต้องติดตามต่อไปว่าสุดท้ายแล้วนายทักษิณและน้องสาวจะได้กลับไทยหรือไม่