“สว.นรเศรษฐ์” แนะนายกฯ ทบทวนถ้ายุบสภาฯ 12 ธ.ค. ชี้ปัญหาน้ำท่วมต้องการรัฐบาลอำนาจเต็มแก้ปัญหา


ข่าวที่น่าสนใจ
2 ธ.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้วุฒิสภาพิจารณาก่อนเปิดการประชุมร่วมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ว่า ขณะนี้เนื้อหาร่างแก้ไขทางฝ่ายเลขาได้ส่งให้กรรมาธิการดูแล้ว แต่ทั้งนี้อาจจะยังไม่ได้เป็นร่างที่ครบ จบ เพราะต้องให้ทางสำนักประชุมตรวจสอบคำอีกครั้ง อย่างไรก็ตามได้ส่งขั้นตอนทางธุรการไปแล้ว แต่โดยเนื้อหาหลักเราได้สื่อสารกับ สว.บางคน ที่มีความสนใจแล้วว่าเนื้อหาเป็นอย่างไรบ้าง และคิดว่าในการประชุมวิปวุฒิสภาในวันที่ 3 ธันวาคม ตนอาจจะลองเสนอว่าเราอาจจะจัดประชุมก่อนที่จะเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อทำความเข้าใจ เกี่ยวกับตัวร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ทราบว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร และหากมีคำถามใดที่กรรมาธิการสามารถตอบได้ เราจะได้คลายข้อสงสัย
เมื่อถามว่าส่วนตัวประเมินทิศทางอย่างไร สว.จะเห็นด้วยหรือไม่ นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า ในช่วงระหว่างที่เราร่าง ก็ได้สื่อสารออกมาเรื่อยๆ เข้าใจว่าในบางประเด็นมี สว.หลายคนมีความเป็นห่วงอยู่ และสว.ที่เป็นกรรมาธิการก็ยังสงวนความเห็นกันไว้ เพื่ออภิปรายในการประชุมร่วมกัน แต่ตนเชื่อว่าในภาพใหญ่ของเนื้อหาที่เราได้ร่างมาแล้วอยู่ในความเห็นที่หลายคนน่าจะเห็นพ้องต้องกันได้ และต้องดูว่าบางมาตราที่มีการสงวนความเห็นไว้ในที่ประชุมสภาฯจะเห็นเป็นอย่างไร แต่คาดว่าวาระ 2 น่าจะผ่านไปได้
เมื่อถามว่าสถานการณ์ตอนนี้มีปัจจัยทางการเมืองที่กังวลหรือไม่ นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า ในทางการเมืองอย่างที่ทราบกัน ว่ามีการส่งสัญญาณออกมาว่าอาจจะยุบสภาได้ทุกเมื่อ ล่าสุดมีข่าวออกมาว่านายกฯอาจจะยุบสภาวันที่ 12 ธันวาคม แต่ตนมองว่าอาจจะต้องคิดใหม่อีกที เพราะขณะนี้มีสถานการณ์น้ำท่วม เรายังต้องการรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มในการบริหารและเยียวยาต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น เรื่องนี้เป็นงานใหญ่ไม่ต่างจากการผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอให้ผ่านพ้นตรงนี้ไปได้ก่อน และหากสถานการณ์ดีขึ้น มีความเหมาะสมแล้วนายกฯจะยุบสภา ตนคิดว่าก็ยังไม่สายเกินไป และประชาชนคงไม่อยากให้เอาการเมืองมาเล่นการเมืองกันจนเกิดผลกระทบกับความเสียหายและเยียวยาต่อประชาชน

ส่วนประเมินหรือไม่ ว่า สว.อาจจะเล่นเกมในวาระ 2 หรือ 3 ซึ่งอาจทำให้ไม่ผ่านตามเกณฑ์ นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้ในการเมืองของประเทศไทย แต่นี่เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของกรรมาธิการ และอยากให้ประชาชนช่วยกันส่งเสียงว่าอย่าให้การเล่นเกมการเมืองมาเป็นอุปสรรคในการที่จะมาแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ตนยังมีความหวังว่าหากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้แก้ไขได้จะนำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นำไปสู่การแก้ปัญหาที่ติดล็อคของประเทศได้จริง และเรื่องของการเมืองที่มีความสับสนอยู่ตอนนี้ มีการออกมาส่งสัญญาณกันมากมายว่ามีการยุบสภา ซึ่งประชาชนก็จับตาดู และนอกเหนือจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ยังมีกฎหมายอื่นๆรอการแก้ไขอยู่ อาจจะต้องหยุดชะงักเพราะเล่นการเมืองเกินไป และอาจสร้างความไม่พอใจให้ประชาชนได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น