รอยเตอร์สรายงานว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐหรือเพนตากอนออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ (พฤหัสที่ 13 พย.) ตามเวลาท้องถิ่นเผยว่า รัฐบาลสหรัฐได้อนุมัติเห็นชอบให้ขายอาวุธให้ไต้หวันซึ่งประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่และอะไหล่เครื่องบินรบชนิดอื่นให้ไต้หวัน ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถของกองทัพไต้หวันในการรับมือกับภัยคุกคามทั้งในปัจจุบันและอนาคต และช่วยให้ฝูงบิน F-16 และ C-130 ของไต้หวันมีความพร้อมในปฏิบัติการรบ
ด้านแคเรน กัว โฆษกสำนักงานประธานาธิบดีไต้หวันออกมากล่าวว่านี่เป็นการขายอาวุธให้ไต้หวันเป็นครั้งแรก ภายใต้รัฐบาลทรัมป์สอง พร้อมกล่าวขอบคุณสหรัฐที่ยังคงรักษานโยบายสนับสนุนอาวุธให้ไต้หวันเหมือนเดิม เพื่อช่วยให้ไต้หวันมีศักยภาพในการป้องกันตนเอง และว่าความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างไต้หวันกับสหรัฐถือเป็นรากฐานสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ทั้งนี้คาดว่าการซื้อขายอาวุธครั้งนี้จะมีผลภายใน 1 เดือน
ด้านหลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนแถลงข่าวตอบโต้ทันทีวันนี้โดยเตือนสหรัฐว่าไต้หวันถือเป็นประเด็นหลักที่จีนให้ความสำคัญและเป็นเส้นแดงแรกที่สหรัฐต้องไม่ข้าม และว่าการอนุมัติขายอาวุธให้ไต้หวันของสหรัฐถือเป็นการละเมิดนโยบายจีนเดียวอย่างร้ายแรง ซึ่งจีนขอแสดงความไม่พอใจและคัดค้านอย่างรุนแรง
ก่อนหน้านี้ทรัมป์พูดว่าประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน เคยบอกกับเขาว่าจีนจะไม่รุกรานไต้หวันตราบใดที่ทรัมป์ย้งเป็นผู้นำสหรัฐ
การประกาศขายอาวุธให้ไต้หวันของสหรัฐมีขึ้นหลังจากที่ทรัมป์และสีได้พบหารือกันระหว่างการประชุมเอเปคที่เกาหลีใต้เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อลงนามในข้อตกลงทางการค้า ซึ่งตอนนั้นได้สร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้กับไต้หวันไม่น้อยเพราะกลัวถูกทรัมป์หักหลัง

