วันนี้ ( 13 พ.ย.) นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากนางสาวพรหมภรณ์ ม่วงทิม ผู้ถือหุ้นบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด(มหาชน)หรือ EASTW เดินทางไปที่สน.บางซื่อ เพื่อติดตามความคืบหน้าการร้องทุกข์กล่าวโทษ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด กับพวก ในฐานะผู้รับเหมาก่อสร้าง โครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำสำนักบก โดยมี ร.ต.อ. ทัดเทพ แก้วสมศรี พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ผู้รับหนังสือ ตามหลักฐานการกระทำความผิด เรื่องการปลอมและใช้หนังสือสัญญาค้ำประกัน (หลักประกันสัญญาจ้าง) และหนังสือสัญญาค้ำประกัน ( ประกันเงินเบิกจ่ายล่วงหน้า) ซึ่งออกโดยธนาคารกสิกรไทย มาใช้ยื่นประกอบทำสัญญาว่าจ้างโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำสำนักบก

โดยสาระสำคัญของหนังสือที่ กลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น ได้ยื่นต่อพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ล่าสุด ก็คือ จากการที่เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 เพื่อให้ดำเนินคดีกับ บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด กับพวก ฐานความผิด ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม กรณี นำหนังสือสัญญาค้ำประกัน(หลักประกันสัญญาจ้าง)และหนังสือค้ำประกันสัญญา (ประกันเงินเบิกจ่ายล่วงหน้า) ของธนาคารกสิกรไทย มายื่นประกอบการทำสัญญาจ้างกับ EASTW

ต่อมาได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าหนังสือสัญญาค้ำประกันทั้งสองฉบับนั้น เป็นเอกสารที่ทำปลอมขึ้นมาทั้งฉบับ เป็นเหตุให้ EASTW หลงเชื่อและทำสัญญาว่าจ้างบริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด ในโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำสำนักบก ตำบลสำนักบก อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี งบประมาณ 75,000,000 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อการกักเก็บน้ำ ด้วยความจุ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร จนทำให้ EASTW และผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหาย จึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อมอบคดีให้พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ดำเนินคดีต่อบริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัดกับพวก จนถึงที่สุด

แต่เนื่องจากคดีนี้ได้มีการร้องทุกข์ตามระเบียบเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 ซึ่งเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วแต่คดีไม่มีความคืบหน้า จึงมานยื่นหนังสือให้ทางพนักงานสอบสวน เร่งรัดการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดทั้งหมดและให้ออกหมายเรียกบุคคลและเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในคดี คือ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน),ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน) สาขาสำนักพหลโยธิน,นายปัญญา คงคาไพศาล ผู้ลงนามในหนังสือสัญญาค้ำประกัน,นายสมหวัง กู่ก้อง ผู้ลงนามเป็นพยานในหนังสือสัญญาค้ำประกันคนที่ 1 ,นายทศพล แก้วกล้า ผู้ลงนามเป็นพยานในหนังสือสัญญาค้ำประกันคนที่ 2 ,บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด และเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้คดีมีความคืบหน้าโดยเร็ว

ทั้งนี้ นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงเหตุจำเป็นต้องมาติดตามสอบถามความคืบหน้าคดีดังกล่าวต่อ ผู้กำกับการสถานีตำรวจบางซื่อ อีกครั้ง ว่า เป็นเรื่องสำคัญที่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษนานถึงกว่า 3 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีการดำเนินการกับผู้กระทำความผิด และจากการที่มาสน.บางซื่อ ทำให้ได้รับทราบว่า ทางพนักงานสอบสวนได้เร่งรัดดำเนินการคดีดังกล่าวมาโดยตลอด ด้วยการออกหมายเรียกให้ผู้เกี่ยวข้องเดินทางมาชี้แจงข้อกล่าวหา แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือ จาก ผู้บริหาร บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด(มหาชน)หรือ EASTW และ รวมถึง ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะผู้เสียหายจากการที่มีผู้ปลอมแปลงเอกสาร หนังสือค้ำประกันสัญญา

สำหรับความผิดที่เกิดขึ้นจากการใช้หนังสือสัญญาค้ำประกัน หรือ แบงก์การันตีปลอม จะมีบทลงโทษหนักกว่าการปลอมแปลงเอกสารทั่วไป โดยมีโทษจำคุก 5 ปี และในคำร้องทุกข์ทาง กลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น ได้ขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยไม่ละเว้นบุคคลใด

ขณะที่ถ้าย้อนกลับไปดุรายละเอียดที่มาของการติดตามทวงถามความคืบหน้าคดี ปรากฎข้อมูลว่า เป็นเหตุเริ่มต้นจากการประชุม คณะกรรมการ อีสท์ วอเตอร์ ครั้งที่ 4/2565 วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2565 และ บุคคลผู้เข้าร่วมประชุม พิจารณาวาระการอนุมัติจัดซื้อจัดจ้าง ตามเอกสารบันทึกการประชุม ประกอบด้วย

1. นางอัศวินี ไตลังคะ ประธานคณะกรรมการบริษัท
2. พลเรือเอก สุชีพ หวังไมตรี ประธานคณะกรรมการการลงทุน ของบริษัทฯ
3. นายเชิดชาย ปิติวัชรากุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และกรรมการการลงทุน ของบริษัทฯ
4. คณะกรรมการบริษัท

ได้มีการพิจารณา โครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำสำนักบก ตำบลสำนักบก อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี และในบันทึกการประชุม ในระเบียบวาระที่ 5 แสดงรายละเอียด ว่า ที่ประชุมรับรู้ รับทราบว่า

“หนังสือค้ำประกันสัญญาตรวจสอบพบว่าเป็นของปลอม โดย นายสุรชัย ขันอาสา กรรมการอิสระ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ กรรมการบริหารความเสี่ยง ได้ซักถามที่ประชุม เรื่องเอกสารค้ำประกันทางการเงินของ บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด พร้อมระบุว่าจากการตรวจสอบทำให้รับทราบว่า หนังสือค้ำประกันสัญญา ซึ่งถือเป็นสาระสำคัญมีปัญหา ทำให้การทำสัญญาไม่สมบูรณ์ ดังนั้น บริษัทฯ จึงไม่ควร แจ้งเริ่มงาน โดยเห็นว่า หากมีการยื่นหนังสือค้ำประกันสัญญาปลอม ควรแจ้งความ เนื่องจากเป็นคดีอาญา”

ประเด็นสำคัญคือ ฝ่ายบริหาร “อีสท์ วอเตอร์” ยอมรับ และให้ข้อมูลด้วยว่า หนังสือค้ำประกันสัญญาของผู้รับจ้างฉบับแรก ได้รับการปฏิเสธจากธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ พร้อมมีข้อเสนอว่า กรณีผู้รับจ้างยื่นหนังสือค้ำประกันสัญญาปลอม บริษัทฯ อาจต้องจัดหาผู้รับจ้างรายใหม่ แต่การจ้างผู้ประกอบการรายใหม่ อาจมีมูลค่างานมากกว่างบประมาณเดิม ที่อนุมัติไว้ 75 ล้านบาท โดยในการประมูลครั้งก่อน ผู้เสนอลำดับที่ 2 เสนองบประมาณ 91 ล้านบาท

โดยประธานฯ ที่ประชุม ยังมอบหมายให้ฝ่ายบริหารติดตามดำเนินการต่อไป และ หากธนาคารยืนยันแล้วว่า หนังสือค้ำประกันสัญญาของผู้รับจ้างเป็นปลอม ฝ่ายบริหารจะเริ่มการจัดหาผู้รับจ้างรายใหม่ อีกทั้งยังชี้แนะว่า ในอนาคตหากสัญญายังไม่สมบูรณ์ ก็ไม่ควรให้ผู้รับจ้างเริ่มงาน และหากมีขั้นตอนใดที่ล่าช้า เช่น การตรวจสอบหนังสือค้ำประกันสัญญาของโครงการ ก็ควรเร่งเข้าตรวจสอบ

ต่อมา ในการประชุมณะกรรมการการลงทุน เมื่อวั นที่ 20 พฤษภาคม 2565 โดยมี พลเรือเอก สุชีพ หวังไมตรี เป็นประธาน กลับพบว่า คณะกรรมการฯได้มีการอนุมัติดำเนินโครงการต่อไป โดยอ้างว่า เป็นผลจากการประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 5/2565 วันที่ 22 เมษายน 2565 มีมติมอบหมายให้ฝ่ายบริหาร กลับไปพิจารณาแนวทาง อนุมัติให้ บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์คอนซัลแตนท์ จำกัด (GPC) ส่งมอบหนังสือค้ำประกันของธนาคาร (LG) ฉบับใหม่ ได้อีกครั้ง โดยกำหนดเงื่อนไขว่าต้องผ่านการรับรองจากสำนักงานใหญ่ ภายในสิ้นเดือน เมษายน 2565 หรือให้ฝ่ายบริหารนำเสนอแนวทางอื่นที่เหมาะสมต่อไป

และในการประชุม ระบุด้วยว่า “ฝ่ายบริหาร ได้เจรจาและพิจารณาให้ GPC หรือ บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์คอนซัลแตนท์ จำกัด สามารถส่งหนังสือ / เอกสารค้ำประกันฉบับใหม่ ที่ออกให้โดยธนาคารและมีความถูกต้อง เพื่อให้โครงการสามารถลงนามสัญญาและเริ่มงานปรับปรุงสระสำนักบกได้” และ GPC ได้มีหนังสือขอเปลี่ยนแปลงหลักประกันสัญญา และไม่ขอรับการเบิกเงินล่วงหน้า ส่งมายังบริษัทอีสท์วอเตอร์ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565

รวมถึงนอกเหนือจากการอนุมัติให้มีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขทางการเงินระหว่าง GPC หรือ บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์คอนซัลแตนท์ จำกัด กับ บริษัทอีสท์วอเตอร์ ที่ประชุมคณะกรรมการลงทุน ยังมีการปรับเงื่อนไขอื่น ๆ เป็นกรณีพิเศษ ให้กับคู่สัญญา อาทิเช่น

1. เห็นควรพิจารณาขยายกรอบระยะเวลา จากเดิม 210 วัน เป็น 300 วัน (นับจากวันที่แจ้งเริ่มงาน)
2. เร่งดำเนินการด้านสัญญา เพื่อให้การลงนามสมบูรณ์ สามารถแจ้งเริ่มได้โดยเร็ว ทั้งนี้ เมื่อได้รับการขยายระยะเวลาเป็น 300 วันแล้ว ในเดือนมิถุนายน 2565 จะต้องพิจารณาออก LOI เพื่อให้ทางผู้รับจ้างเริ่มงานได้ทันที โดยดำเนินการจัดเตรียมด้านสัญญาควบคู่ไปด้วย กำหนดการลงวันที่การลงนามสัญญาเป็นวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ระยะเวลาการดำเนินการ 300 วัน นับจากวันแจ้งเริ่มงาน
3. การดำเนินการโครงการปรับปรุงสระสำนักบก คงกรอบงบประมาณเดิมที่ได้รับอนุมัติสั่งจ้างที่ 75 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ทั้งหมดนั้นเป็นแนวทางปฏิบัติของคณะกรรมการและผู้บริหาร บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด(มหาชน)หรือ EASTW ที่นำมาสู่การทำงานตรวจสอบของ กลุ่มผู้ถือหุ้น EASTW รวมถึง กลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น